ASIAN-TU ควงคู่รับ “บาทอ่อน” โบรกฯชี้กำไรโตต่อเนื่อง
ASIAN-TU ดีดตัวรับบาทอ่อน โบรกฯมองหนุนส่งออก ชี้กำไรโตต่อเนื่อง-ผลงานโดดเด่น จากธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ต่อจากดีมานด์ทั่วโลกค่อยๆ ฟื้นตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 ก.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ปิดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.17% โดยทำจุดสูงสุดที่ 18.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 17.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 441.28 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ปิดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 21.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 4.48% โดยทำจุดสูงสุดที่ 21.30 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 20.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท
ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ASIAN ขยายกำลังการผลิตของธุรกิจ Pre-fried กว่า 2 พันตันต่อปี เพิ่มขึ้น 26% ทางด้านอาหารสัตว์เลี้ยง Demand ดี จ่อเพิ่ม Line การผลิต 1 Line ในปี 2564 และ 3 Line ในปี 2565 ประกอบกับเงินบาทกลับมามีแนวโน้มอ่อนค่า หนุนกลุ่มส่งออก, ธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ต่อ Demand ทั่วโลกค่อยๆ ฟื้นตัว ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินกำไรปี 2564 ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 ที่ 1.10 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มอง TU เป็น Innovative Company ไม่ใช่เพียง Tuna Company อีกต่อไป ภายหลังเห็นทิศทางและกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการมุ่งสู่ Innovative Product สำหรับคนและสัตว์เลี้ยง จนเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้กลุ่มนี้ทยอยสูงขึ้น ช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงรายได้จากทูน่า คาดกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 เพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งจะมีการปลดล็อคมูลค่าแฝงของบริษัทลูกการ Spin-Off ธุรกิจอาหารสัตว์เศรษฐกิจในไตรมาส 4/2564 และอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาส 3/2565 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภายใต้แนวคิด ESG ซึ่ง TU เป็นบริษัทแรกในกลุ่มอาหารที่ได้เตรียมความพร้อมมานานกว่า 8 ปี และเริ่มเห็นผลบวกที่เป็นรูปธรรมแล้ว จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 30 บาท
ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ก็ระบุว่า TU ทำกำไรดีต่อเนื่อง แนวโน้มธุรกิจสำหรับในงวดครึ่งหลังปีนี้ยังมีความมั่นคงสูง แรงสนับสนุนมาจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจ Red Lobster บริษัทมีการลงทุนธุรกิจอาหารด้านนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมและต่อเติมภาพการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี สำหรับราคาพื้นฐานเป็น 24.70 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 2565 ที่ระดับ 14 เท่า