1,620 โดนเจาะ

* ในที่สุดสิ่งที่ “โมนิก้า” อยากเห็นสุด ๆ ก็เกิดขึ้นจนได้ และทำให้เดี๊ยนแฮปปี้สุด ๆ ที่เห็นแนวรับบริเวณ 1,620 จุดกำลังโดนเจาะ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ที่ชี้ให้เห็นว่า ต้นทุนของการเล่นรอบใหม่จริง ๆ อยู่ตรงจุดไหน? และยังเปิดโอกาสให้พวกเงินเย็นเข้าเก็บหุ้นอีกรอบแบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้การลงทุนเที่ยวนี้เร้าใจขึ้นเป็นกอง เพราะเป็นการบอกให้รู้เป็นนัยว่า นักเล่นกลุ่มไหนกระเป๋าหนักน่ะสิ

* ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาถึงระดับ 1,621.96 จุด แต่สุดท้ายเด้งนิด ๆ ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,623.84 จุด ลบไป 9.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.41 หมื่นล้านบาท น่าจะอนุมานได้ทันทีว่า นี่เป็นการเขย่าหุ้นเพื่อเอาของมากกว่าประเด็นไหน? ผนวกกับจำนวนคน “ติดเชื้อ” และ “เสียชีวิต” ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง เดี๊ยนเลยเชื่อว่า สถานการณ์ต่าง ๆ กำลังดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงคาดหวังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในไตรมาสถัดไปไงล่ะคะ

* ยิ่งเห็นผู้คนในประเทศออกมาเที่ยวทะเล และเดินห้างมากขึ้นกว่าปกติ ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ปัญหาต่าง ๆ เริ่มคลาย และเมื่อใดก็ตามที่มีการปลดล็อกธุรกิจกลางคืนให้กลับมาลั้นลาได้เหมือนเดิม “โมนิก้า” ก็เชื่อเหลือเกินว่า เม็ดเงินจะสะพัดขึ้นอีกเยอะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การลงทุนเที่ยวนี้ไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อน เพราะบริบทของเรื่องราวที่เกิดขึ้นกำลังเปลี่ยนโฉมไปอย่างมีนัยสำคัญเจ้าค่ะ

* โดยเฉพาะในรายของ PTT ถือเป็นไฮไลท์สำหรับเล่นยาวอย่างแน่นอน เพราะมองในมุมของการใช้ชีวิตที่มีชีวิตชีวา ย่อมทำให้หุ้นยักษ์หลับเริ่มตื่นอีกครั้ง และคาดหวังจะเห็นหุ้นขึ้นไปหายอดเดิมแถว 45 บาทได้อย่างแน่นอน เพราะองค์ประกอบหลายอย่างค่อนข้างเอื้อ (ราคาน้ำมันดิบก็ขึ้นอีก) เดี๊ยนเลยไม่กังขากับการขึ้นมาปิดที่ 39  บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.91 พันล้านบาทนะจ๊ะ

* คล้ายกับอาการแทงกั๊กของหุ้น BANPU ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา น่าจะเป็นการเคาะสั้น ๆ เพื่อดูแรงขายสะเด็ดน้ำหรือยัง! ไม่มีประเด็นต้องวอรี่แม้แต่นิดเดียว ผสานกับทุกคนรู้ดีว่า ตอนนี้ราคาถ่านหินยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น “โมนิก้า” ถึงมองการปิดที่ระดับ 12.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท ท่ามกลาง PBV 1.30 เท่า ไม่น่ากลัวเลยนะคะ

* เช่นเดียวกับการขึ้นรอบใหม่ของหุ้น NER พร้อมด้วยสตอรี่โกรทสุด ๆ มันเป็นเกมที่เหมาะสำหรับเล่นยาวสุด ๆ เพราะไทม์ไลน์ของธุรกิจมาสวยเหลือเกิน บวกกับยอดขายยางยังโตตลอดเวลา ผสานกับมีการแตกไลน์สินค้าเพิ่มเติม ล้วนเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เดี๊ยนพูดเสมอว่า “ลงต้องซื้อ..ขึ้นต้องตาม” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ 7.90 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 635 ล้านบาท น่าสนใจจริงไหมตัวเอง!

* ประเด็นข้างต้นคล้ายคลึงกับหุ้นทรงสวยอย่าง HFT ทุกประการ โดยเฉพาะในมุมของกำไรที่โตต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี และในปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 20% คือสตอรี่ที่อัพแวลูของหุ้นขึ้นไปอีก “โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ 8.70 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า PE 10 เท่า มันไม่มีประเด็นไหนที่น่ากลัวเลยพับผ่าซิ!..งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ไม่เล่นแล้วจะเสียใจ..อิอิอิ

* เม้าท์ถึงหุ้นที่มีโกรทขึ้นมาทั้งที ก็อดไม่ได้ที่จะเม้าท์ถึง RBF อีกเช่นเคย ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ชื่นชอบหุ้นตัวนี้มาจาก “ทำได้อย่างที่พูด” จึงไม่มีอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ยิ่งช่วงไหนเห็นราคาหุ้นนิ่ง ๆ เพราะโดนขายทำกำไรลงมาเยอะ ยิ่งเป็นจังหวะของการเก็บใส่พอร์ตแบบไม่ต้องลังเลใจ จึงอยากให้ทุกคนประเมินการยืนปิดที่ 19.60 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาท น่าจัดสักดอกไหมล่ะคะ

* ส่วนคนที่ชอบแนวเร้าใจ และใส่กันแบบสุดติ่ง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น UBIS เพื่อชี้ให้เห็นการเล่นเที่ยวนี้โหดสลัดรัสเซียของจริง และการขึ้นมายืนปิดที่ 14 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 338 ล้านบาท มันคือจุดที่หุ้นขึ้นมาเต็มเพดานแล้วจริง ๆ และหนทางเดียวที่จะทำให้หุ้นไปต่อสวย ๆ คงต้องเดิมพันด้วยตัวเลขกำไรงวดถัดไปต้องโต..ถึงจะสลัดคำว่า โอเวอร์แวลูนะจ๊ะ