TVD บวก 4% ลั่นไตรมาส 4 ฟื้นตัว! รายได้ปีนี้ 2.8 พันลบ. รุกบริการขนส่ง-นายหน้าประกัน
TVD บวก 4% โดย ณ เวลา 11.55 น. อยู่ที่ระดับ 1.14 บาท บวก 0.04 บาท ลั่นไตรมาส 4 ฟื้นตัว! รายได้ปีนี้ 2.8 พันลบ. รุกบริการขนส่ง-นายหน้าประกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15 ก.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ณ เวลา 11.55 น. อยู่ที่ระดับ 1.14 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 3.64% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.07 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 2,850 ล้านบาท จากเดิม 4,000 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/64 น่าจะเป็นช่วงที่ต่ำสุดของปี แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64
บริษัทเดินหน้าปรับกลยุทธ์และรุกธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแผนการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจ B2B บริษัทมีการร่วมมือกับ ALPHA เพื่อเปิดให้บริการ “Xpresso” บริการขนส่งสินค้าขนาดเล็กภายในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/64 นี้ และวางแผนขยายพื้นที่จัดส่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศในอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า
อีกทั้งเดินหน้าธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้บริษัท TVD Broker หลังจากที่ลูกค้าเริ่มตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของประกันภัยมากขึ้น ภายหลังจากที่เผชิญการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจประกันเห็นการเติบโตที่ดี โดยปัจจุบันมีพันธมิตรเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำมากมาย อาทิ ธนชาติประกันภัย, ทิพยประกันภัย ,กรุงเทพประกันภัย หรือ วิริยะประกันภัย เป็นต้น รวมไปถึงยังวางแผนนำบริษัท TVD Broker เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเห็นความชัดเจนใน 1-2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ยังมีการเข้าลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์การเติบโตในอนาคต ทั้งบริษัท blockfint ที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี Blockchain, บริษัท EATLAB ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI และ บริษัท 2READ สร้างแอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มให้ความรู้ด้านต่าง ๆ
ด้านแผนการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจ B2C แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้โรงงานผลิตสินค้า ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามกำหนด รวมไปถึงปัญหาราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น และกำลังซื้อภายในประเทศลดลง แต่บริษัทยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ โดยวางแผนจะเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งมีประมาณ 6.5 ล้านรายผ่านการทำแคตาล็อกสินค้า พร้อมทั้งยังคงเป้าในการเพิ่ม SKU สินค้าให้แตะ 100,000 รายการในปีนี้ รวมไปถึงเพิ่มจำนวนพนักงาน Call Center และในเดือน ต.ค.จะมีการเปิดตัว Mobile application ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น