TU วอลุ่มแน่น-บวก 2% รับอานิสงส์บาทอ่อน! โบรกฯชี้กำไรไตรมาส 3 โตเด่น แนะซื้อเป้า 24.6 บ.

TU วอลุ่มแน่น-บวก 2% รับอานิสงส์บาทอ่อน! โบรกฯชี้กำไรไตรมาส 3 โตเด่น รับไฮซีซั่น ผสานยอดขายอาหารทะเลแช่แข็ง-อาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง แนะซื้อเป้า 24.6 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17ก.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TU ณ เวลา 16.27 น. อยู่ที่ระดับ 21.80 บาท ปรับตัวขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.66 พันล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรของ TU ในไตรมาส 3/64 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากเป็นไฮซีซั่น และได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าล่าสุดทะลุ 33 บาทแล้ว ผสานกับยอดขายอาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยงยังมี Demand ค่อนข้างสูงทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ และการ Spin off บริษัทลูกปลดล็อก Value ให้เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.6 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17 ก.ย.2564) ว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU (TP22F 23.8*) คาดกำไรปี 2564 โต 18% และ โต 3% ใน 2565 จากยอดขายอาหารแช่แข็งฟื้นตัว บวกกับกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตดี และส่วนแบ่งขาดทุน Red lobster ลดลง ซึ่งโดยรวมการเปิดประเทศในยุโรป+สหรัฐ (รายได้จาก 2 พื้นที่นี้คิดเป็น 27%, 43% ตามลำดับ) ยังเป็นสัญญาณฟื้นตัว

ขณะที่ภาพระยะกลางยาว บริษัทจะเริ่ม Unlock value ของบริษัท ผ่านการ Spin-off 2 บริษัทลูก TU Feed mill (อาหารกุ้ง) ปลายไตรมาส 4/2564 และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงใน 2566

Valuation: ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเหลือ PER22F ที่ 13.9 เท่า และ PBV21F 1.7x ยังเป็นหุ้นใหญ่ที่ซื้อขายค่อนข้างต่ำ ด้านกลต.อนุมัติคำเสนอขายหุ้น IPO บ.ลูก TU คือ TFM แล้ว จะช่วยเพิ่มมูลค่าบริษัทสูงขึ้น และยังมีแผนนำบ.อื่น (ขายอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าตลาดต่อไปใน 2566) บวกกับเงินบาทยังเป็นแนวโน้มอ่อนค่า มองเป็นจุดซื้อกลับ

Back to top button