AJA หุ้นล่าฝัน..!

ถ้าพูดถึง AJA ต้องบอกว่าเป็นหุ้นที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับนักลงทุนอย่างมาก เพราะมักถูกหยิบมาทำราคา จนทำให้หลายรายกระเป๋าฉีกมานักต่อนักแล้ว...


ถ้าพูดถึงหุ้นบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ต้องบอกว่าเป็นหุ้นที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับนักลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย เพราะมักถูกหยิบมาทำราคา จนทำให้นักลงทุนหลายรายกระเป๋าฉีกมานักต่อนักแล้ว…

AJA หรือเดิมรู้จักกันในชื่อ AJ พระเอกตัวจริง” โตมาจากธุรกิจขายเครื่องเสียง เครื่องเล่น DVD และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งช่วงหนึ่งเคยอู้ฟู่มาก

แต่เมื่อโลกธุรกิจเปลี่ยน…เทคโนโลยีเปลี่ยน ประกอบกับเจอคู่แข่งจากจีนเข้ามาตีตลาด ก็เลยทำให้ทั้งมาร์เก็ตแชร์และยอดขายของ AJA ค่อย ๆ หดหายไปเรื่อย ๆ…

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา AJA จึงพยายามล่าฝันควานหาธุรกิจใหม่ เพื่อมาชดเชยธุรกิจดั้งเดิมที่ซันเซ็ตไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ก็ไปล่าฝันเป็นผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมาขายในบ้านเรา ด้วยการไปจับไม้จับมือกับกลุ่มยนตรกิจ…ก็ฮือฮาอยู่พักหนึ่ง ช่วงนั้นมีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้น AJA กันหนาแน่นเลยทีเดียว…

แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆไป พร้อม ๆ กับผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษฐานปั่นหุ้นบริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD (หรือหุ้น AJA ในปัจจุบัน)

ทำให้ในแง่ของการบริหารจัดการหยุดชะงักไป ต้องปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งใช้เวลาเป็นปีกว่าจะตั้งหลักได้ ทำให้ธุรกิจนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าพลอยชะงักไปด้วย ซึ่งดูแล้วดีลนี้น่าจะล้มไปแล้ว…

จากวันนั้นถึงวันนี้ ล่าสุด AJA ล่าฝันใหม่ (อีกครั้ง)…คราวนี้ไปจับไม้จับมือกับบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เพื่อศึกษาและประกอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ EV Bike โดยตั้งเป้าจะเริ่มจำหน่ายตลาดในประเทศต้นปี 2565

ก็เป็นการนำความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายเสริมจุดแข็งของกันและกัน…โดยในมุม CHO มีโนว์ฮาวด้านการผลิตและประกอบรถยนต์อยู่แล้ว รวมถึงบริการหลังการขาย ก็จะได้ลูกค้าในส่วนนี้เพิ่มเข้ามา

ส่วน AJA เอง ก็จะได้ขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ ก็จะทำให้ต้นทุนต่ำลง สามารถตั้งราคาขายได้ถูกลง ทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อไปใช้ก็เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันเป็นการนำเข้ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากจีนมาขาย ซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39,900-49,900 บาท

กลายเป็นสตอรี่ใหม่เอี่ยมอ่องที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น AJA คึกคัก ส่งผลให้ราคาวิ่งแรลลี่ 2 วันซ้อน โดยวานนี้ (20 ก.ย. 2564) ปรับขึ้นไป 1.61% โดยปิดตลาดที่ 0.63 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 118 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่อยู่ระหว่างถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ จับขังคุกแดน 3 หรือระดับ 3 ซึ่งเป็นโทษสูงสุดของมาตรการกำกับการซื้อขายอยู่แท้ ๆ (ถูกจับขังตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.–15 ต.ค. 2564)

แหม๊…ดูท่ามาตรการกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสิ้นมนต์ขลังซะแล้วละมั้ง เพราะเท่าที่ดูช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถดับร้อนหุ้นซิ่งได้เลย…อย่างนี้ก็เท่ากับตบหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯ น่ะสิ..!?

กลับมาที่ AJA ก็น่าคิดว่า การล่าฝันครั้งนี้ จะกลายเป็นฝันที่เป็นจริง…ช่วยยับยั้งภาวะขาดทุนเรื้อรังมาหลายปีดีดัก จนปัจจุบันมีขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรปาไป 632 ล้านบาท ได้มั้ย..?

เอ๊ะ…หรือจะเป็นฝันสลายอีกครั้ง…อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

…อิ อิ อิ…

Back to top button