สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,919.84 จุด ลดลง 50.63 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,354.19 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.08% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,746.40 จุด เพิ่มขึ้น 32.50 จุด หรือ +0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 458.68 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด หรือ +1.00%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.92 จุด หรือ +1.50%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,348.53 จุด เพิ่มขึ้น 216.47 จุด หรือ +1.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,980.98 จุด เพิ่มขึ้น 77.07 จุด หรือ +1.12%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลธ์แคร์ ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,980.98 จุด เพิ่มขึ้น 77.07 จุด หรือ +1.12%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 74.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำด้วย
ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,778.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40.70 เซนต์ หรือ 1.83% ปิดที่ 22.611 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 51.60 ดอลลาร์ หรือ 5.74% ปิดที่ 950.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.30 ดอลลาร์ หรือ 1.60% ปิดที่ 1,894.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% แตะที่ 93.2047 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.22 เยน จากระดับ 109.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9235 ฟรังก์ จากระดับ 0.9277 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2812 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2827 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1726 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1723 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3644 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7235 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7237 ดอลลาร์สหรัฐ