สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ระบุไทม์ไลน์ที่ชัดเจนในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยส่งสัญญาณเพียงว่าจะปรับลด QE ในไม่ช้านี้ ซึ่งต่างจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับลด QE ในเดือนพ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,258.32 จุด เพิ่มขึ้น 338.48 จุด หรือ +1.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,395.64 จุด เพิ่มขึ้น 41.45 จุด หรือ +0.95% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,896.85 จุด เพิ่มขึ้น 150.45 จุด หรือ +1.02%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) หลังบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์เปิดเผยว่าจะทำการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ ขณะที่นักลงทุนรอดูสัญญาณจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 463.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.52 จุด หรือ +0.99%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,637.00 จุด เพิ่มขึ้น 84.27 จุด หรือ +1.29%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,506.74 จุด เพิ่มขึ้น 158.21 จุด หรือ +1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,083.37 จุด เพิ่มขึ้น 102.39 จุด หรือ +1.47%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังปิดตลาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,083.37 จุด เพิ่มขึ้น 102.39 จุด หรือ +1.47%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 76.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงิน
ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,778.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.60 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 22.907 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 50.30 ดอลลาร์ หรือ 5.29% ปิดที่ 1,001.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 141.70 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 2,036.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในไม่ช้า
ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.29% แตะที่ 93.4733 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.85 เยน จากระดับ 109.22 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9268 ฟรังก์ จากระดับ 0.9235 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2780 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2812 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1691 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1726 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3613 ดอลลาร์ จากระดับ1.3662 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7239 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7235 ดอลลาร์