ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “ธนพิริยะ” เข้าเทรด mai ภายในปีนี้

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "ธนพิริยะ" หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภาย ใต้ชื่อ “ธนพิริยะ" พร้อมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai ภายในปีนี้ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงิน


นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) (RHB OSK) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณานับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกและแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ TNP แล้วเมื่อวันที่ 6 ต.ค.58

ทั้งนี้ TNP มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 58

โดย RHB OSK มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ของบริษัทที่มีกว่า 25 ปี ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกและค้าส่งในจังหวัด เชียงราย ที่มีความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง การคัดเลือกสินค้าที่วางจำหน่ายครอบคลุมกว่า 15,000 รายการ การบริการ และทำเลที่ตั้งร้านค้าเหมาะสม สนับสนุนให้ธนพิริยะเป็นร้านค้าปลีกที่ครองใจผู้บริโภค ในจังหวัดเชียงรายมา โดยตลอด

นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจในเชียงราย คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน เชียงรายเป็นจังหวัดเศรษฐกิจและเป็นประตูสู่ AEC ยิ่งมั่นใจได้ว่า การเดินหน้าขยายสาขาของธนพิริยะในช่วงต่อจากนี้ จะเป็นโอกาสที่สำคัญ และให้ผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยว่า ธนพิริยะ ในฐานะร้านค้าปลีกท้องถิ่นรายแรกของคนไทยอยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และสามารถปรับตัวและแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ผลให้ TNP มีผลการดำเนินงานที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เพราะด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหาร ทำให้บริษัทมีความเข้าใจผู้บริโภคท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดมีความยืดหยุ่น รวดเร็ว ระบบการจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ

ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมต่อคู่ค้า จึงมั่นใจว่าหลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขยายสาขาของธนพิริยะให้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงราย

ปัจจุบันบริษัท มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 12 สาขา และครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายเพียง 5 อำเภอเท่านั้น จากทั้งหมด 18 อำเภอ จึงยังเป็นโอกาสในการรุกขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่มีศักยภาพ  เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ด้าน เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยธนพิริยะมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในเชียงราย เป็นหลัก เพื่อสร้างฐานลูกค้าและแบรนด์ของ “ธนพิริยะ” ให้แข็งแกร่ง

ก่อนที่จะขยายวงกว้างไปสู่อำเภอรอบนอกและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและหนึ่งในจุด ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอา เซียน (AEC) ในช่วงต่อจากนี้ ที่จะเป็นส่วนผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น  รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของการค้าตามแนวเขตชายแดน ซึ่งน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของเชียงรายเติบโตตามลำดับ

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 633.6 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 14.8 ล้านบาท  ส่วนปี 57 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,201.7 ล้านบาท  กำไรสุทธิอยู่ที่ 45.4 ล้านบาท

อนึ่ง TNP เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภาย ใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” โดยรายได้หลักมาจากรายได้จากการขายสินค้าผ่านสาขาและสำนักงานใหญ่  ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 12 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 11 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา ซึ่งทุกสาขามีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย รูปแบบของร้านธนพิริยะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการมีสินค้าที่หลากหลาย และมีราคาย่อมเยาแบบโมเดิร์นเทรด แต่มีความสะดวกแบบร้านสะดวกซื้อ

Back to top button