สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 8 ต.ค.58
– ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.77 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.92 เยน/ดอลลาร์
– ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1298 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1252 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,392.15 จุด ลดลง 1.51 จุด, -0.11% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 52,752.95 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,715.69 ล้านบาท SET+MAI
– ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. 58 อยู่ที่ 72.1 โดยเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 61.2 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 67.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.9
– สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO NIDA Investor Sentiment Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 101.48 หรือเพิ่มขึ้นถึง 70.35% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากดัชนีเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 59.57 โดยดัชนีทุกกลุ่มปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 88.87% มาอยู่ที่ 99.99 ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน ทำให้มาอยู่ในกรอบทรงตัว (Neutral) ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยสุดอยู่ที่ 66.7 หรือเพิ่มขึ้น 66.68%
– กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ศุลกากร ในการอำนวยความสะดวกทางการค้า พันธกรณีระหว่างประเทศ และสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน รวมทั้งรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
– ภาคเอกชน เรียกร้องภาครัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันเห็นการชะลอตัวทั้งการซื้อและโอนของอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการแนวราบประมาณ 10% หากรัฐไม่เร่งออกมาตรการจะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เกิดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังขอเรียกร้องให้ชะลอการเก็บภาษีที่ดิน 0.03% เฉลี่ย 600 บาท/หลัง ออกไปก่อนราว 2-3 ปี เนื่องจากปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี หากมีการจัดเก็บจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการและคนซื้อ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
– กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า จีนจำเป็นต้องปรับลดปริมาณหนี้สินภาคธุรกิจที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูง พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธนาคาร เพื่อให้นโยบายการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกืจในรูปแบบใหม่นั้น ประสบความสำเร็จ
– โตเกียว โชโก รีเสิร์ช ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านสินเชื่อของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 13% ในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 4,388 ราย ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 25 ปี
– ผลการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำขึ้นโดยสำนักข่าวเกียวโดชี้ว่า ประชาชนที่สนับสนุนการปรับคณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีนั้น มีแค่ 35.4% ในขณะที่ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับครม.มีสัดส่วนที่ 40.1%
อย่างไรก็ดี คะแนนสนับสนุนครม.นายอาเบะ เพิ่มขึ้น 5.9% จากเดือนก.ย.มาอยู่ที่ 44.8% ส่วนคะแนนไม่เห็นชอบอยู่ที่ 41.2%
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์