“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัวเหนือระดับ 1.50%
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 1.50% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. อาจทำให้ดึงเม็ดเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ดีดตัวเหนือระดับ 1.50% เมื่อคืนนี้
โดยดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,577.89 จุด ลดลง 4.94 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,142.38 จุด ลดลง 97.68 จุด หรือ -0.32% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,323.00 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด หรือ +0.47%
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคได้รับแรงกดดันหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 1.50% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.00%
ทั้งนี้การดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้แรงหนุนจากปัจจัยความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความวิตกต่อการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ทั้งนี้ หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ด้านนักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ โดยทั้งสองจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และความสำคัญของการใช้นโยบายการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ยังคาดว่าคณะกรรมาธิการดังกล่าวจะทำการซักถามนายพาวเวลและนางเยลเลนเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ และประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐ