BANPU นำทีม LANNA-AGE วิ่งคึก! รับราคา “ถ่านหิน” ทะยานต่อเนื่อง แตะ 228 จุด

BANPU นำทีมหุ้น LANNA-AGE บวกคึก! รับราคา “ถ่านหิน” ทะยานต่อเนื่อง แตะ 228 จุด หลังรัฐบาลออกมาตรการเข้มงวดในการลดการปล่อยมลพิษ - ดีมานด์สูงขึ้นในภาคการผลิต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10:13 น. ราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU อยู่ที่ระดับ 13.40 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 13.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.30 น. ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 640.60 ล้านบาท

ด้านบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA อยู่ที่ระดับ 28 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 6.67% สูงสุดที่ระดับ 28.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 27.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 251.27 ล้านบาท

บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE อยู่ที่ระดับ 3.38 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 4.97% สูงสุดที่ระดับ 3.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.34 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.78 ล้านบาท

บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC อยู่ที่ระดับ 1.75 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 1.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.45 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินยังคงปรับตัวขึ้นร้อนแรง ซึ่งเป็นไปในทิศทางดัชนี NCF ที่ล่าสุดอยู่ที่ 228.00 จุด เพิ่มขึ้น 10 จุด หรือ 4.59%

โดยก่อนหน้านี้ นายหยาง ชิน-หลง ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันเปิดเผยว่า ไต้หวันอาจจะได้ประโยชน์จากการที่หลายประเทศหันมาสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวัน หากนโยบายควบคุมพลังงานในจีนส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน

ขณะที่จีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญกับมาตรการลดการใช้พลังงานและการปันส่วนการใช้ไฟฟ้า หลังจากเกิดปัญหาปริมาณถ่านหินไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประกอบกับการที่รัฐบาลออกมาตรการเข้มงวดในการลดการปล่อยมลพิษ รวมทั้งความต้องการที่สูงขึ้นในภาคการผลิต ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคาถ่านหินซึ่งเป็นแหล่งพลังงานใหญ่ที่สุดในการผลิตไฟฟ้าของจีนนั้น พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกันนายหยางได้แถลงต่อรัฐสภาไต้หวันว่า หากวิกฤตพลังงานส่งผลให้การส่งออกของจีนย่ำแย่ลง ประเทศต่างๆ ก็อาจเปลี่ยนมาสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันแทน ซึ่งหมายความว่ากลุ่มผู้ผลิตอาจย้ายฐานการผลิตมายังไต้หวันด้วย

ทั้งนี้ธนาคารกลางไต้หวันกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในจีนจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินมากเพียงใดที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจไต้หวันซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกและเทคโนโลยีเป็นหลักนั้น ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์เช่นแล็บท็อปและแท็บเล็ตสำหรับการเรียนและการทำงานจากที่บ้านเพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด

ส่วนในการแถลงต่อรัฐสภาวันนี้ นายหยางคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไต้หวันจะขยายตัวราว 6% ในปีนี้ โดยจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การค้าและการอุปโภคบริโภคภายในประเทศในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

Back to top button