SABUY เตรียม “เทนเดอร์” TBSP เพิ่ม 1.52% ก่อนปิดโต๊ะ 10 พ.ย.นี้ หลังเข้าถือ 73.48%

บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  หรือ SABUY แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้(6 ต.ค.64) เรื่องการทำคำเสนอซื้อหุ้น บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP เพิ่มเติ่ม โดยมีระยะเวลาทำคำเสนอซื้อในวันที่ 5 ต.ค.-ถึงวันที่ 10 พ.ย. 2564 โดยเสนอซื้อหุ้นสามัญในราคา 13.361369198915 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันชำระราคาหลักทรัพย์ที่เสนอซื้อในวันที่ 12 พ.ย. 2564 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนการรับซื้อ

อนึ่ง SABUY ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 เข้าซื้อหุ้นสามัญของกิจการจากบริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS จำนวน 150,061,118 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 73.48 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ของกิจการ โดยผู้ทำคำเสนอซื้อได้มาซึ่งหุ้นสามัญของกิจการในวันที่ 21 กันยายน 2564 เป็นผลให้ผู้ทำคำเสนอซื้อมี หน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของกิจการทุกราย

อย่างไรก็ตาม TKS มีความประสงค์ที่จะไม่ขายหุ้นของกิจการในสัดส่วนที่เหลือให้แก่ผู้ทำคำเสนอซื้อ และจะยังคง สัดส่วนหุ้นที่เหลือจนกว่าจะเสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อกิจการ โดยระบุเป็นเงื่อนไขข้อตกลงภายหลังวันที่ทำการซื้อขาย เสร็จสมบูรณ์ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นของกิจการระหว่าง TKS และผู้ทำคำเสนอซื้อ (รายละเอียดตามส่วนที่ 2 รายละเอียดของผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ หน้าที่ 10 – 13 ของแบบทำคำเสนอซื้อ หัวข้อ 4.1.1 สัญญาซื้อหุ้นสามัญของ TBSP ลงวันที่ 13 กันยายน 2564 ) ) ซึ่งระบุว่าผู้ชาย (TKS) จะไม่ขายหุ้นของ TBSP ที่ยังคงถืออยู่ ณ วันที่ผู้ทำคำเสนอ ซื้อจะต้องทำคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญของกิจการของผู้ทำคำเสนอซื้อ

ดังนั้น SABUY จึงต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของหุ้นสามัญส่วนที่เหลือที่ต้องทำคำเสนอซื้อจำนวนรวม 3,110,680 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 1.52 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำ กิจการ ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2554 (รวมทั้งที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม)

อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ TBSP เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์จะขยายธุรกิจของบริษัทในด้านผลิตบัตรพลาสติก สำหรับธุรกิจ เพื่อก่อให้เกิด Business Synergy ระหว่างกลุ่มธุรกิจผลิตบัตรพลาสติก (Plastic Card Unit) ซึ่งเป็นหน่วย ธุรกิจหนึ่งใน TBSP และฐานลูกค้าภายใต้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทของผู้ทำคำเสนอซื้อ

โดยการนำจุดแข็งของผู้ทำคำเสนอซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่อยู่ใน Ecosystem ของผู้ทำคำเสนอซื้อ ซึ่งมีมากกว่า 20 ล้านบัญชี ประกอบไปด้วยผู้ใช้งาน e-wallet ของผู้ทำคำเสนอซื้อ และพันธมิตร ผู้ใช้งานตู้เติมเงิน top up เติมสบาย และพันธมิตร ผู้ใช้งานขายสินค้าอัตโนมัติ ผู้ให้และผู้ใช้บริการศูนย์อาหาร เครื่อง Point of Sale (POS) ระบบ Loyalty Program และอื่น ๆ ซึ่งได้มีการใช้บัตรพลาสติกเป็นสื่อกลางในการบันทึกข้อมูล หรือ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มี สามารถนำบัตรพลาสติกไปใช้งานได้ (potential customer) เช่น บัตรเงินสด บัตร e-wallet บัตรสมาชิก บัตรโดยสารรถ สาธารณะ บัตรสมาชิก เป็นต้น

ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทางกิจการต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มเติมนอกเหนือจาก กลุ่ม บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม ของสถาบันการเงิน ดังนั้น จะเป็นการเสริมสร้างประโยชน์ทำให้กลุ่มบริษัทมี สินค้าและบริการที่ครบวงจรสำหรับการแข่งขันในธุรกิจเพิ่มขึ้นในอนาคต