“ฟินันเซีย” คาดกำไร TU ปี 64 โตแตะ 7.45 พันลบ. แนะ “ซื้อลงทุน” เป้า 30 บ.
“บล.ฟินันเซีย” คาดกำไรปี 64 โต 19% แตะ 7.63 พันลบ. มองธุรกิจยังเติบโตในระยะยาว พร้อมแนะนำ “ซื้อลงทุน” ราคาเป้าหมาย 30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำหุ้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU โดยยังคาดกำไรสุทธิปี 2564 -65 ไว้ตามเดิมที่ 7.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.2% จากปีก่อน และ 7.63 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อนในปี 65
พร้อมกันนี้ ยังคงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 30 บาท โดยบริษัทอยู่ระหว่าง Spin-off 2 บริษัทย่อย TFM ภายในไตรมาส 4/64 และ Pet Care หรือ i-Tail ภายในปี 2565 ดังนั้นจึงยังแนะนำ “ซื้อลงทุน”
ทั้งนี้ ประเมินว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 6,071 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.8% จากปีก่อน คิดเป็น 82% ของประมาณการทั้งปี ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/64 จะอ่อนตัวลงต่อเพราะเป็น Low Season ของธุรกิจ และคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 1/66 ภายหลัง COVID-19 คลี่คลาย หนุนการเติบโตกลุ่ม Ambient (การปรับฐานจบลง) และ Frozen รวมถึง Pet care โดยบริษัทยังมีแผนขยายเข้าสู่ตลาดใหม่อย่าง จีน และอเมริกาใต้ และการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาอลูมิเนียม จะเป็นประเด็นท้าทายในปี 2566 ภายหลังมีสต็อกราคาต่ำพอใช้จนถึงสิ้นปีนี้ โดยราคาอลูมิเนียมตลาดโลกปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 38% จากปีก่อน ส่วนต้นทุนอลูมิเนียมปีนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นต่ำกว่า +15% จากปีก่อน คาดสัดส่วนอลูมิเนียมอยู่ที่ราว 3%-4% ของต้นทุนทั้งหมด จากการทำ Sensitivity พบว่าราคาอลูมิเนียมที่ปรับขึ้นทุก 10% จะกระทบต่อกำไร 4% และกระทบราคาเป้าหมาย 1 บาท/หุ้น แต่มองว่าผลกระทบแท้จริงจะจำกัดกว่านั้น นอกจากการปรับปรุงต้นทุนการผลิต การเพิ่มสัดส่วนสินค้ามาร์จิ้นสูงอย่าง Innovative Product แล้ว ล่าสุดบริษัทได้เริ่มเจรจาปรับขึ้นราคากับลูกค้าแล้ว คาดว่าจะยังรักษาอัตรากาไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 17%-18%