ทุนญี่ปุ่นบุก (รอบใหม่)โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยสารพันปัญหา ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรต่างๆ เรื่องผู้บริหารแต่ละบริษัท หรือแม้กระทั่งเรื่องตัวหุ้น ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย “เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย” จนผู้คนในตลาดหุ้นเริ่มรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า ทำไมหน่วยงานหลักๆ อย่าง ก.ล.ต. และ ตลท. ไม่คิดจะออกมาสร้างความมั่นใจอะไรบ้างเลยเหรอจ๊ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยสารพันปัญหา ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรต่างๆ เรื่องผู้บริหารแต่ละบริษัท หรือแม้กระทั่งเรื่องตัวหุ้น ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย “เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย” จนผู้คนในตลาดหุ้นเริ่มรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า ทำไมหน่วยงานหลักๆ อย่าง ก.ล.ต. และ ตลท. ไม่คิดจะออกมาสร้างความมั่นใจอะไรบ้างเลยเหรอจ๊ะ

*โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีกำไรจากหุ้น ซึ่งถูกจุดชนวนขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ ถ้าเปรียบไปแล้ว คนพวกนี้ก็เหมือนกับแมงหวี่แมงวัน ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับผู้คนได้ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนว่า คนที่คุ้มกะลาหัวตลาดหุ้นไทย กลับไม่มีแอคชั่นอะไรออกมาเลย ทั้งที่ควรจะตอบโต้อะไรออกไปบ้าง เพื่อทำให้รู้ว่า สิ่งที่ท่านคิดมันเกินความพอดีไปหน่อยเจ้าค่ะ

*ตรงนี้ถือเป็นความท้าทายของ 2 หน่วยงานเต็มๆ เพราะฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่คอยขีดเส้นให้ทุกคนเดินตาม ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์ในทุกเรื่อง “โมนิก้า” ถึงอยากเห็นบทบาทของ 2 หน่วยงานนี้แอคเกรสซีฟเสียหน่อยดีไหม! เพราะอาการเรื่อยๆ มาเรียงๆ นกบินเฉียงมาไวๆ มันไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยมองเห็นภาพของการลงทุนชัดเจนขึ้นเลยนะซี

*ยิ่งจังหวะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาอีกรอบ ยิ่งต้องบอกให้รายย่อยได้เข้าใจถึงกลไกของตลาดหุ้นมีแต่ส่วนสนับสนุนให้การลงทุนคล่องตัวขึ้น ไม่ใช่มัวแต่จับผิดในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง หรือไม่ยอมเม้าท์มอยอะไรออกมาเลยนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นกระบวนการทางความคิดที่ต้องเริ่มกันใหม่ เพื่อโชว์ให้เห็นศักยภาพของตลาดหุ้นไทยมีมากกว่าที่เห็นเจ้าค่ะ

*ด้วยความมั่นใจในส่วนนี้ทำให้ดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,411.33 จุด บวกไป 19.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.40 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน แถมหนุ่มหล่ออย่างน้อง “กรภัทร” แห่งค่าย บล.โนมูระ ออกมาคอนเฟิร์มเงินทุนญี่ปุ่นกำลังทะลักเข้าไทยรอบใหม่ ซึ่งมีทั้งมาในรูปแบบของทางตรง และทางอ้อมแบบนี้..ระเบิดระเบ้อเห็นๆ นะจ๊ะ

*โดยเฉพาะในรายของ TRUE  หุ้นขวัญใจหน้ามนของ “โมนิก้า” ซึ่งเป็นหุ้นที่ชอบเม้าท์ถึงบ่อยๆ เพราะเจ้าของเป็นคนมุ่งมั่น แถมเป็นคนลุยงาน นี่แหละ..สเปกของผู้บริหารรุ่นใหม่ ราคาหุ้นเลยทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.40 บาท บวกไป 0.45บาท หรือขึ้นไป 4.50%  ด้วยมูลค่า 2.50 พันล้านบาท แถมการขึ้นเที่ยวนี้เกิดจากการพักตัว 2 วัน ต่อจากนั้นกระชากขึ้นทันที ทำให้ฐานแนวรับใหม่สูงขึ้นกว่าเดิมแบบนี้..มีโอกาสวิ่งไปได้เรื่อยๆ นะตัวเอง

*อีกหนึ่งรายที่น่าจับตาสุดๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน PTT   คนหน้าเดิมที่พรายกระซิบของเดี๊ยนรู้จักเป็นอย่างดี วานนี้ยังคงแสดงความแกร่งด้วยการสวนภาวะขึ้นมาปิดที่ 272 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 2.3% ด้วยมูลค่าในระดับ 2.40พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นทีเด็ดที่นักเล่นไม่ควรพลาดเป็นอันขาด..ส่วนรายละเอียดเรื่องดังกล่าวมีอะไรสำคัญบ้าง พรายกระซิบย้ำว่า หาดูใน www.kaohoon.com แล้วกันนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับ KBANK SCB   หลังจากอ่อนตัวลงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็เริ่มขยับแข้งขยับขาให้เห็นกันบ้างแล้ว แถมพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังว่า ผ่านจุดต่ำสุดของการทำธุรกิจ และราคาหุ้นก็ถึงจุดต่ำสุดเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วเหมือนกัน จังหวะนี้ถึงมีแต่คำว่าขึ้นแบบนี้  ตามสูตรเขายืนยันว่า หุ้นต้องขึ้นไปปิดแก๊ป และถ้าผลประกอบการออกมาไม่ขี้เหร่สักเท่าไหร่ละก็ ..น่าทยอยสะสมจริงๆ ไม่ได้โม้..อิอิอิ

*กรณีเปรียบได้กับในรายของ TASCO TIPCO ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันโดนกระหน่ำทิ้งอย่างหนักหน่วง หลังจากนั้นกลับมีแรงซื้อเข้ามาไล่เก็บหุ้น  “โมนิก้า”  ถือเป็นเกมราคาที่ผู้เล่นเข้าใจเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ และในเมื่อโครงเรื่องถูกออกแบบให้เป็นของราคาสูง หุ้นถึงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 37.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 10.29%  ส่วยรายหลังปิดที่ 20.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3% มันคือรสนิยมส่วนตัวของผู้เล่น คนไม่เล่นไม่เข้าใจหรอกจ้า

*เช่นเดียวกับในรายของ SCN  กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 1.60  บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่า 1.30 พันล้านบาท มันเป็นผลมาจากบรรยากาศการลงทุนมันพาไป บวกกับคนเล่นหายตกใจ ทิศทางของหุ้นถึงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ถึงกระนั้นก็ควรพึงสังวรไว้ว่า นี่คือหุ้นที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ถ้าคิดว่า มีหุ้นตัวอื่นที่ดีกว่า ก็อย่ามาสนใจหุ้นตัวนี้เลยค่ะ

*เหมือนกับในรายของ ORI รายนี้รู้อยู่แล้วมีโปรเจ็กต์หลายพันล้านอยู่ในมือ แต่สถานการณ์ของหุ้นไม่ค่อยน่าไว้วางใจ การเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 9  บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป16.80% มันเป็นสถานการณ์ที่ดูดีขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ระยะยาวต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่ออกมาเที่ยวนี้ ไม่รู้ว่า ใครได้ประโยชน์เต็มๆ งานนี้ถึงตามได้แค่สั้นๆ เจ้าค่ะ

 

Back to top button