ASIAN ไฟเขียว “เอเชี่ยนอะไลอันซ์” ขาย IPO ก่อนดันเข้าตลาด Q4/65
บอร์ด ASIAN ไฟเขียวบริษัทย่อย “เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ขาย IPO ก่อนดันเข้าจดทะเบียนในตลาดช่วงไตรมาส 4/65
บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ AAI ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ AAI เป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 20% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ AAI และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมใน AAI ที่บริษัทถืออยู่บางส่วนไปพร้อมกับการเสนอขาย IPO เป็นสัดส่วนไม่เกินกว่า 10% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65
ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่อาจเกิดขึ้นจากแผน Spin-Off จึงเห็นควรให้มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก IPO ต่อประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ให้มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขาย
สำหรับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปดังกล่าว จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน AAI ลดลงจากเดิม 100% ของทุนชำระแล้ว เป็นไม่ต่ำกว่า 70% ของทุนชำระแล้ว โดย AAI จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเช่นเดิม
ทั้งนี้ AAI ประกอบธุรกิจแปรรูปปลาทูน่าสำหรับผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจำหน่ายและส่งออก โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO มีแผนจะนำไปขยายธุรกิจของ AAI ในอนาคตและ/หรือ ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ด้านผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ประกอบด้วย 1) ลดภาระของบริษัทฯ ในการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ธุรกิจแปรรูป ปลาทูน่า สำหรับผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่า และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจำหน่าย และส่งออกของบริษัทฯในระยะยาว เนื่องจาก AAI จะสามารถระดมทุนได้เองผ่านช่องทางของตลาดทุน
2) ลดต้นทุนทางการเงินของ AAI ในระยะยาวจากการมีแหล่งทางเลือกในการระดมทุนที่หลากหลาย โดยการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังช่วยให้ AAI สามารถระดมทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำลงกว่าปัจจุบันได้ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ในภาพรวม
3) บริษัทฯจะมีการแยกโครงสร้างธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคล่องตัวมากขึ้น
4) ภายหลังการเขาจดทะเบียนของ AAI มูลค่าของหุ้นของ AAI จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงและมูลค่าเพิ่มของธุรกิจแปรรูปปลาทูน่า สำหรับผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าและอาหารสัตวเลี้ยง รวมถึงการจำหน่ายและส่งออกของบริษัทฯ
5) บริษัทฯได้รับเงินทุนจากการขายหุ้นสามัญเดิมใน AAI ที่บริษัทฯ ถืออยู่บางส่วน