เปิด 10 หุ้น mai พุ่งกระฉูดรอบ 9 เดือน T นำทีมโกยรีเทิร์นสูงเฉียด 900%

เปิด 10 หุ้น mai พุ่งกระฉูดรอบ 9 เดือน T นำทีมโกยรีเทิร์นสูงสุดเฉียด 900% สวนโควิด-19


ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วง 9 เดือนแรก 2564 ยังเป็นขาขึ้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดโควิด-19  โดยเห็นได้จากดัชนี SET ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 อยู่ที่ระดับ 1,449.35 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 1,605.68 จุด ณ วันที่ 30 ก.ย.64 บวก 156.33 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10.78%

อย่างไรก็ตามทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงมากกกว่าตลาดในช่วงดังกล่าวมานำเสนออีกด้าน โดยครั้งนี้คัดเลือกจากหุ้นกลุ่ม mai ปรับตัวขึ้นแรง 10 อันดับของกลุ่ม โดยเปรียบเทียบข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.63-30 ก.ย.2564 โดยเรียงลำดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงมากสุดไปหาน้อยสุดประกอบด้วย T, IMH, DIMET, SAAM, NCL, UMS, PPM, KWM, UKEM และ UREKA และจะนำเสนอข้อมูลประกอบ 3 อันดับแรกดังตารางประกอบ

สำหรับหุ้นปรับตัวแรงอันดับ 1 คือ บริษัท ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T ราคาหุ้นในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวขึ้น 875% จากระดับ 0.04 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาอยู่ที่ระดับ 0.39 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2564 คาดราคาหุ้นปรับตัวแรงจากการเข้ามาเก็งกำไรประเด็นการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มดาว โดยมีเป้าหมายเข้ามาเพื่อใช้ T เป็นฐานในการระดมทุน (ผ่านกลไกตลาดหุ้นไทย) โดยเตรียมการระดมเงินลงทุนครั้งใหญ่ ทั้งจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ เพื่อลงทุนโครงการเขื่อนแม่น้ำโขงขนาดใหญ่ใน สปป.ลาว หลังจากล่าสุดโครงการเขื่อนใน สปป.ลาวมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก และอยู่ระหว่างการสรุปพันธมิตรในการลงทุนดังกล่าว

ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 54,044 ล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียนจำนวน 10,948,438,156 บาท เป็นจำนวน 64,992,438,156 บาท

โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 54,004 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ขาย PP ให้ 5 ราย ในราคาหุ้นละ 0.02 บาท เพื่อเปิดทางกลุ่มทุนใหญ่ จาก สปป.ลาว นำโดย “เดวิด แวน ดาว” และภรรยา “ปณิชา ดาว” เข้ามาถือหุ้น T ได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 51,994 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1,039.88 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้นทะยานแรงในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา

อับดับ 2 คือ บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH ราคาหุ้นในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวขึ้น 505.50% จากระดับ 2.18  บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาอยู่ที่ระดับ 13.20 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2564 เนื่องจากเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ใช้บริการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น และได้ปัจจัยบวกทั้งได้รับเลือกเป็นสถานพยาบาลฉีดวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” สำหรับรอบประชาชนทั่วไป จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทำให้แนวโน้มผลประกอบการเติบโตโดดเด่น ทำให้ราคาหุ้นทะยานแรงในช่วงดังกล่าว

นอกจากนี้ IMH เตรียมสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้กับกลุ่มลูกค้า IMH ในปี 2565 ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมอนุมติให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถนำเข้าไฟเซอร์ได้ โดยวัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่บริษัทฯ เตรียมจะนำเข้ามาในปี 2565 นั้น เป็นวัคซีนที่อาจมีการปรับสูตรรองรับโควิดสายพันธุ์เดลต้าและประเภทกลายพันธุ์

ส่วนความสำเร็จในการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มที่ผ่านมานั้นมียอดฉีดเกินคาดกว่า 300,000 โดส โดยในปี 2565 ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิดทุกประเภท ทั้ง ซิโนฟาร์ม, ไฟเซอร์ เป็นต้น ให้มากกว่า 1,000,000 โดส

อย่างไรก็ดี บล.ทรีนีตี้ ได้ประเมินราคาเป้าหมายเหมาะสมหุ้น IMH ใหม่เป็น 24 บาท/หุ้น โดยชูศักยภาพ IMH ที่มีความโดดเด่นและได้รับอานิสงส์ในการเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อช่วงโควิดแบบครบวงจร

บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า IMH โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.90 บาท ประเมินทิศทางผลการดำเนินงาน IMH คาดกำไรไตรมาส 3/2564 ทำสถิติสูงสุดใหม่ราว 160-170 ล้านบาท และไตรมาส 4/2564 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

โดยถึงแม้ว่ารายได้ตรวจโควิด-19 ชะลอลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อปัจจุบันที่ลดลง แต่เคสผู้ป่วยสีเหลือง-แดง ยังจำเป็นต้องเข้ารักษาต่อในโรงพยาบาลต่อเนื่อง ส่งผลให้ IMH ยังคงมีรายได้จากการรักษาโควิด ในเคสดังกล่าว ประกอบกับยังมีรายได้จากการให้บริการฉีด Sinopharm กลุ่มลูกค้าองค์กรและประชาชนทั่วไปกว่า 150,000 ราย รวมทั้งโรงพยาบาลประชาพัฒน์ ซึ่งรับรู้เข้าเป็นไตรมาสที่ 2 ,U-Rate ยังเต็ม 100% และการตรวจสุขภาพที่เริ่มกลับเข้ามาตั้งแต่เดือนก.ย. รวมทั้งบริการตรวจ ATK แบบนอกสถานที่ ให้กับบริษัท /พนักงานก่อนเข้าทำงาน

อับดับ 3 คือ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ราคาหุ้นในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวขึ้น 505.50% จากระดับ 2.18  บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาอยู่ที่ระดับ 13.20 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2564 คาดนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นเล็ก และปรับตัวแรงจากกรณีบริษัทฯ เซ็น MOU กับบริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ หรือ NCL เพื่อร่วมมือบริการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตามล่าสุด NCL ได้ขอยุติการทำธุรกิจร่วมกันดังกล่าวโดยบริษัทได้ทำหนังสือเพื่อยกเลิกบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจเมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 และส่งให้ทาง DIMET แล้วทั้งนี้บริษัทได้ตัดสินใจโดยคำนึงถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทเป็นสำคัญ ซึ่งการยกเลิกบันทึกข้อตกลงนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและผลประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด

ดังนั้นราคาหุ้น DIMET หลังจากทะยานแรงในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต้องระมัดระวังในการเข้าลงทุนเนื่องจากหุ้นเริ่มเข้าภาวะแรงซื้อมากเกินไป ประกอบกับผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 จนถึงล่าสุด และที่ผ่านมาหุ้นเข้าไปติดมาตรการกำกับการซื้อขาย Cash Balance หลายครั้ง

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button