MORE วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% นิวไฮรอบ 5 ปี รับลุยธุรกิจน้ำครบวงจร-ลุ้นปีนี้เทิร์นอะราวด์
MORE วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% นิวไฮรอบ 5 ปี รับลุยธุรกิจน้ำครบวงจร-ลุ้นปีนี้เทิร์นอะราวด์ โดย ณ เวลา 11:28 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.74 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 7.41%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15 ต.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE โดย ณ เวลา 11:28 น.อยู่ที่ระดับ 1.74 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 7.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 585.08 ล้านบาท ราคาหุ้นต่ำสุด 1.63 บาท สูงสุด 1.79 บาท โดยราคาหุ้นปรับตัวแรงในรอบ 5 ปี โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.78 บาท เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2559
ดร.อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการน้ำแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ขายน้ำประปาให้กับโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงธุรกิจบำบัดน้ำผ่านบริษัทย่อย โดยปัจจุบันบริษัทฯได้รับสัมปทานโครงการวางระบบน้ำประปาเพื่อบริหารจัดการน้ำประปาบนเกาะเสม็ด ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ระยะเวลา 25 ปี กำลังการผลิตได้ 10,000 คิว/วัน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ ในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ผ่าน บริษัท ปลวกแดง วอเตอร์ จำกัด โดย MORE ถือหุ้นในสัดส่วน 100% เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ ให้บริการชาวบ้านกว่า 3,000 ครัวเรือนที่มีความต้องการใช้น้ำประปา ระยะเวลาสัมปทาน 25 ปี กำลังการผลิตได้ 10,000 คิว/วัน
“การที่เราตัดสินใจเข้ามารุกธุรกิจการเป็นผู้ให้บริการน้ำแบบครบวงจร เนื่องจากเรามองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว หรือในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ อีกทั้งในปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อผลิตน้ำป้อนโรงงาน รวมไปถึงการขยายตลาดไปสู่การเป็นผู้ให้บริการบำบัดน้ำเสียในบ่อกุ้งให้กับเกษตร อีกทั้งบริษัทฯยังได้รับสัมปทานจัดจำหน่ายแร่ไพโรรูไซต์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งแร่ไพโรรูไซต์เป็นแร่ที่ได้จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีเจือปน สามารถใช้กรองน้ำ และบำบัดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง” ดร.อมฤทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากธุรกิจน้ำ โดยในช่วงที่ผ่านมา MORE ยังได้ขยายไลน์เข้าสู่ธุรกิจด้านอาหาร ยาสมุนไพร และเครื่องสำอาง ผ่าน “บริษัท มอร์ เมดดิคัล จำกัด” ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 โดยได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และ แพทยสมาคมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน จัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่ายยาสมุนไพรภายใต้ชื่อ “การบูร” ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรสกัด สเปรย์กระชายขาว เนื่องจากสินค้ามีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย.
สำหรับ “มอร์ เมดดิคัล” จัดเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก เนื่องจากตลาดธุรกิจยาและสมุนไพรมีขนาดใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ทำให้ทั้ง 3 โปรดักส์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมามีออร์เดอร์สั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการที่มีอันเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญกับการป้องกันและรักษาสุขภาพมากขึ้น
ทั้งนี้มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเข้าสู่โหมดเทิร์นอะราวด์เต็มรูปแบบจากธุรกิจน้ำและธุรกิจผลิต – จำหน่ายยาสมุนไพร โดยเฉพาะธุรกิจน้ำที่จะมีรายได้ประจำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และถึงจุดคุ้มทุนภายในเวลาเพียง 7 ปีเท่านั้น อีกทั้งได้วางเป้าหมายจะมีรายได้รวมกว่า 5,000 ล้านบาท จากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯทั้งหมด
อนึ่งผลการดำเนินงานเริ่มมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเด่นชัด โดยไตรมาส 2/2564 พลิกมีกำไรสุทธิ 15.17 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 7.72 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 22.90 ล้านบาท คิดเป็น 296.63 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรกของปี 2564 พลิกมีกำไร 21.78 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 14.64 ล้านบาท ลุ้นผลงานปีนี้พลิกกำไร