ทำไมฝรั่งซื้อ กองทุนขาย

วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกกว่า 3,773 ล้านบาท

ทำให้เดือนต.ค.นี้ ต่างชาติซื้อสุทธิแล้ว 17,744 ล้านบาท

ต่างชาติไม่ได้เพิ่งเข้ามาไล่ซื้อเฉพาะช่วงนี้

ทว่า เริ่มซื้อสุทธิมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 จำนวน 5,584 ล้านบาท

เดือนกันยายน จำนวน 10,803 ล้านบาท

คำถามคือ ทำไมต่างชาติซื้อต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ

คำตอบ คือ แนวโน้มค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะในปี 2565 จะแข็งค่ามากกว่าปี 2564 อย่างแน่นอน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินบาทแข็งค่ามาจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่บอกว่า ปี 2565 เศรษฐกิจกลุ่มประเทศอาเซียนจะกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง

แนวโน้มค่าเงินของอาเซียนจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

ไม่เพียงเท่านั้น

จากข้อมูลเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นของสหรัฐฯ และยุโรป

นักลงทุนต่างประเทศ ประเมินว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวใน “กรอบจำกัด” ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป

ส่วนตลาดหุ้นที่ผ่านมา ถือว่าขึ้นมาอย่าง “ร้อนแรง”

ทำให้ต่างชาติปรับพอร์ต โยกเงินเข้าตลาดหุ้นอาเซียนมากขึ้น

หุ้นที่ต่างชาติเข้าซื้อ

หลัก ๆ อยู่ใน SET50 นั่นแหละ

และจะมีในกลุ่ม SET100 บ้างเป็นบางตัวที่ราคายังไม่แพง และมีแนวโน้มฟื้นตัวดีในปี 2565

นักวิเคราะห์บอกว่า ต่างชาติมองข้ามผลประกอบการไตรมาส 3 และ 4 ของ บจ.ไทย และไปให้ความสำคัญกับทิศทางงบการเงินในปี 2565 เป็นหลัก

ราคาหุ้นของ บจ.หลายตัว

หากอ้างอิงกับผลประกอบการปี 2565 ถือว่าวค่อนข้าง “ราคาถูก”

หากเป็นแบบนี้ นั่นหมายความว่า ต่างชาติที่เข้ามาซื้อน่าจะถือกันยาว (หรือปานกลาง) และต้นทุนของต่างชาตินับว่าต่ำ เพราะเข้ามาไล่เก็บตั้งแต่ดัชนี 1,600 จุด เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2564

กลุ่มธนาคาร เป็นหุ้นที่ต่างชาติเข้ามาซื้อมากสุด

พร้อมกับโฟกัสไปที่แบงก์กสิกรไทย KBANK รวมถึง แบงก์กรุงเทพ BBL

TISCO เป็นอีกหุ้นกลุ่มธนาคารที่ต่างชาติเก็บเข้าพอร์ตด้วย

ไม่เว้นแม้แต่หุ้นเงินติดล้อ TIDLOR

TIDLOR นักวิเคราะห์ประเมินว่า ไตรมาส 3 กำไรน่าจะทรงตัว ส่วนไตรมาส 4 เริ่มฟื้นตัว

และปี 2565 จะเป็นปีที่ดี

ต่างชาติมองเงินติดล้อไปยังปี 2565 แล้ว

และกับราคาขณะนี้ที่ต่ำกว่าไอพีโอ (36.50 บาท) ซื้อแล้วถือทิ้งไว้ หรือหากนับจากนี้ไปอีกซัก 1 ปี ต่างชาติคาดการณ์ว่าราคาจะดีดกลับขึ้นมาตามทิศทางผลประกอบการของเงินติดล้อ

นักวิเคราะห์จากโบรกฯ ต่างประเทศ คาดการณ์ว่า สัปดาห์นี้ ต่างชาติจะซื้อสุทธิต่อเนื่อง

ส่วนสัปดาห์หน้า อาจจะมีการสลับขายออกมาบ้าง

แต่ในระยะปานกลาง จะยังซื้อสุทธิต่อไป

มาถึงนักลงทุนสถาบันในส่วนของ “กองทุน” กันบ้าง

การขายของกองทุนต่าง ๆ น่าจะมาจาก “การปรับโพสิชั่น” พอร์ตลงทุน โดยขายหุ้นตัวที่กำไรออกมา

กองทุนมองว่า กำไรของ บจ.ไตรมาส 3 และ 4 ออกมาไม่ดีนัก

และอีกเหตุผลที่กองทุนขายคือ คงพยายามกดดัชนีลงมา แล้วรอไปรับ “ของ” อีกครั้ง

แต่ดัชนีกลับไม่ลง

เพราะต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสวน และซื้อต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีเป็นขาขึ้น

มีข่าวว่า กองทุนต้องการเงินสดจากการขายหุ้นราว ๆ 3-3.5 หมื่นล้านบาทเพื่อรอ “เก็บของ” (หุ้น) ช่วงปลายปีนี้

ไม่รู้ว่าแผนปรับโพสิชั่นของกองทุนจะสำเร็จหรือไม่

มาดูกันว่าการตัดสินใจของกองทุน

และนักลงทุนต่างชาติ

ใครจะเข้าวิน