แรงเก็งกำไรดัน SET ปิดเช้ารีบาวด์ 5 จุด นลท.จับตา “บจ.” ทยอยประกาศงบไตรมาส 3

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์หลังวานนี้ลงไปมาก ตั้งข้อสังเกตุว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าช่วงเช้าซื้อ – บ่ายขายทำกำไร ฉะนั้น ให้ระมัดระวังการลงทุน โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประกาศผลการดำเนินการในไตรมาส 3/2564 ของกลุ่มแบงก์ วันนี้มี KBANK, SCB, TTB หากออกมา in line หรือไม่แย่กว่าคาดก็น่าจะทำให้ราคาหุ้นรีบาวด์ได้

นอกจากนี้ ต้องติดตามแรงขายกองทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ ที่วานนี้ (19 ต.ค.2564) ขายออกพร้อมกัน โดยก่อนหน้าก็ขายพร้อมกันในเดือนนี้ 2 ครั้ง คือ วันที่ 6, 11 ต.ค.2564

ทั้งนี้มองว่าตลาดปรับฐานหลังรับรู้ปัจจัยบวกไปมากพอควรแล้ว และรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 ของ บจ.ส่วนใหญ่น่าจะชะลอตัวจากการล็อกดาวน์ 29 จังหวัด และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น ตลาดเริ่มโฟกัสงบไตรมาส 3/2564 ว่าหุ้นที่ยังมีอัพไซด์เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จากโควิด-19 กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รับประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า และขึ้นตามหุ้นเทคโนโลยีโลก

อย่างไรก็ดีภาพรวมตลาดอยู่ระหว่างปรับฐาน ให้แนวรับ 1,610 – 1,620 จุดช่วงรอประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ที่จะสิ้นสุดกลางเดือน พ.ย.แนะรอจังหวะเข้าซื้อ คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ แต่คงไม่ผ่าน 1,650 จุดไปได้ และต่อเนื่องด้วยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 2 – 3 พ.ย.2564

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่าย นายกิติชาญ มองว่าตลาดยังแกว่งตัวไซด์เวย์ สลับกลุ่มเล่น พร้อมให้แนวรับที่ 1,630 และ 1,627 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,645 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,898.42 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท ลดลง 0.30 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,620.45 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,055.75 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,014.28 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

KCE มูลค่าการซื้อขาย 919.30 ล้านบาท ปิดที่ 83.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท