“หุ้นเอเชีย” เขียวสลับแดง! ตามดาวโจนส์-วิตกภาคอสังหาฯจีนกดดันตลาด
“หุ้นเอเชีย” เขียวสลับแดง! ตามดาวโจนส์-วิตกภาคอสังหาฯจีนกดดันตลาด หลัง "เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป" ประสบความล้มเหลวในการขายสินทรัพย์มูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวทั้งแดนลบและแดนบวกในเช้าวันนี้(22 ต.ค.64) โดย ณ เวลา 9:32 น.ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,578.23 จุด ลบ 5.55 จุด หรือ 0.15%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,899.34 จุด เพิ่มขึ้น 190.76 จุด หรือ +0.66%,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,022.89 จุด บวก 5.36 จุด หรือ 0.02%,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีเปิดวันนี้ที่ 3,007.14 จุด ลดลง 0.19 จุด หรือ 0.01%,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 16,847.22 จุด ลบ 42.29 จุด หรือ 0.25%,ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,201.46 จุด บวก 12.96 จุด หรือ 0.41%
ด้านโดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้น IBM ที่ร่วงลงหลังรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นชั้นนำ อาทิ หุ้นเทสลา โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,603.08 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.02%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงโดยถูกกดดันจากหุ้น IBM ที่ร่วงลง 9.56% หลังเปิดเผยรายได้ไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทั้งนี้ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) เปิดเผยรายได้ไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.762 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.777 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายถูกกดดันจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ประสบความล้มเหลวในการขายสินทรัพย์มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์
โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 469.71 จุด ลดลง 0.36 จุด หรือ -0.08% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,686.17 จุด ลดลง 19.44 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,472.56 จุด ลดลง 50.36 จุด หรือ -0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,190.30 จุด ลดลง 32.80 จุด หรือ -0.45%
นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลงด้วย แต่แรงซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยและกลุ่มเติบโตได้ช่วยพยุงตลาด
โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ซึ่งพึ่งพาตลาดจีน ร่วงลง 3% หลังราคาสินแร่เหล็กและราคาโลหะพื้นฐานร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 2.7% แม้รายงานยอดการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 2% ในไตรมาส 3