MAKRO สถานีต่อไป PO.!
หลังจากห้างโลตัสส์ ตกเป็นสินทรัพย์ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เรียบร้อยโรงเรียนซีพีแล้ว...
หลังจากห้างโลตัสส์ ตกเป็นสินทรัพย์ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เรียบร้อยโรงเรียนซีพีแล้ว…
หลังกระบวนการโอนหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 5,010 ล้านหุ้น ที่ราคา 43.50 บาทต่อหุ้น ให้กับ 3 ราย ได้แก่ 1. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL 2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (CPH) และ 3. บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) เพื่อแลกกับแอสเซทห้างโลตัสส์ ทั้งในไทยและมาเลเซีย…เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
แต่…ไม่จบแค่นั้น สิ่งที่นักลงทุนรออยู่ คือ การขาย Public Offering (PO) ออกมา ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องยื่นไฟลิ่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อที่จะขาย PO ในลำดับถัดไป…
วัตถุประสงค์ 1) เพื่อแก้ปัญหาฟรีโฟลตไม่ให้ต่ำกว่า 15% ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และ 2) มีความมุ่งมั่นที่จะนำหุ้น MAKRO ไปคำนวณในดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นไทยและตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น SET50, MSCI หรือ FTSE
เดิมมีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5,586 ล้านบาท จากเดิม 2,400 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 6,372 ล้านหุ้น แบ่งเป็น จำนวน 5,010 ล้านหุ้น จัดสรรแบบ PP ให้กับ 3 ราย เพื่อแลกกับแอสเซทห้างโลตัสส์ ส่วนอีก 1,362 ล้านหุ้น รองรับการขาย PO รวมทั้ง CPALL จะนำหุ้น MAKRO บางส่วนออกมาขายด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ 1) หุ้นที่จะขาย PO มีจำนวนเท่าไหร่กันแน่..? ซึ่งมีการประเมินกันว่า CPALL จะนำหุ้น MAKRO มาพ่วงขายด้วยประมาณ 363 ล้านหุ้น 2) สัดส่วนการจัดสรรหุ้นเป็นอย่างไร..? และ 3) ราคา PO เท่าไหร่..?
ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนตั้งหน้าตั้งตารอความชัดเจน..!!
แต่ระยะเวลาหรือไทม์มิ่งที่จะขาย PO นั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวบริษัท แต่ขึ้นอยู่ที่ ก.ล.ต. ถ้า ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งได้เร็ว ก็ขายได้เร็ว แต่ถ้า ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งช้า ก็ขายช้า อันนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ก.ล.ต.
กรณีดีสุด สามารถขาย PO ได้ก่อนสิ้นเดือน พ.ย.นี้ แน่นอนว่า MAKRO อาจเป็นตัวเต็งที่จะเข้า SET50 ในรอบนี้…โอเค…แม้อาจเป็นไปได้ยาก แต่ก็มีลุ้นนะ…
แต่ถ้าไม่ทันภายในเดือน พ.ย.นี้ ก็ต้องดูว่าจะขายได้ภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า…ซึ่งก็มีการเปิดช่องไว้ว่า หากเป็นการซื้อสินทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกรณี MAKRO เป็นการซื้อสินทรัพย์ที่อยู่นอกตลาด ก็อาจเข้าเงื่อนไขพิเศษ…
ที่สำคัญหลังจากโอนสินทรัพย์โลตัสส์แล้วเสร็จ จะทำให้ MAKRO มีมาร์เก็ตแคปเพิ่มเป็น 5 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่า 1% ของมาร์เก็ตแคปรวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ และต้องเป็นหุ้นที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปสูงสุดติด 20 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเผลอ ๆ MAKRO อาจติดอันดับท็อป 5 เสียด้วยซ้ำ
ฉะนั้นด้วยเงื่อนไขดังกล่าว MAKRO เข้า SET50 แน่ ๆ แต่จะเข้าด้วยเกณฑ์ Fasttrack ในรอบนี้เลยหรือไม่..? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตลาดหลักทรัพย์แล้วล่ะ…
ขณะที่การขาย PO อาจจะมีกองทุนส่วนบุคคล หรือไพรเวทฟันด์เข้ามาดักซื้อก่อน ก็จะทำให้หุ้น MAKRO มีความน่าสนใจ แถมเมื่อเข้า SET50 แล้ว จะเป็นไฟต์บังคับให้กองทุนต้องมีไว้ติดพอร์ต…ก็ยิ่งทำให้หุ้น MAKRO มีสีสันมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้จัดเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต๊ำต่ำ เพราะอยู่ในมือกลุ่มซีพีเป็นหลัก…
ส่วนนักลงทุนรายย่อยเอง ก็จะได้มีโอกาสเข้าถึงหุ้น MAKRO มากขึ้น…
แต่ถ้าจะให้ตีตราบทสรุปของเรื่องนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหน คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็เป็นกลุ่มซีพีของ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” นั่นแหละ ที่สามารถแก้ปัญหาภายในกลุ่มได้เบ็ดเสร็จ โดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าสักแดงเดียว…
แหม๊…การวางหมากของเจ้าสัวนี่ขั้นเทพจริง ๆ…ว่าป๊ะล่ะ
…อิ อิ อิ…