สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 13 ต.ค.58
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.66 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.87/89 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1384 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1351/1353 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,406.69 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือ 0.41% มูลค่าการซื้อขาย 47,394.84 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 144.48 ล้านบาท (SET+MAI)
– นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วย การเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ถูกธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านสามารถขอกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)โดยมีวงเงินเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท, การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองให้กับผู้ที่ซื้อบ้านทั้งเก่าและใหม่ นอกจากนั้นยังให้ผู้ที่มีรายได้น้อยที่ซื้อบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท สามารถนำวงเงิน 20% ของมูลค่าบ้านไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับช่วง 5 ปีภาษี
– นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีเห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับกิจการ venture capital ด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 0% เป็นเวลา 10 ปี จากปกติเสียในอัตรา 20% และยกเว้นภาษีสำหรับผู้ที่ได้รับเงินปันผลจากกิจการ venture capital เพื่อส่งเสริมให้เกิด venture capital ในประเทศ และส่งเสริมให้นักคิดมีธุรกิจของตัวเอง
– คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติกำหนดวันประมูลของคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ต เร็วขึ้นมาเดิมมาเป็นวันที่ 12 พ.ย.58 หลังจากวันประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ย.58
– บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คาดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 58 อาจเติบโตได้ 2.5% ท่ามกลางแรงกดดันด้านการส่งออกจากอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน ส่วนแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี 59 นั้นคาดว่า เศรษฐกิจน่าจะเติบโตอยู่ในระดับ 2.5-3% บนสมมติฐานที่โครงการขนาดใหญ่ภาครัฐสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานที่วางไว้ และไม่เกิดปัญหาทางการเมืองภายในประเทศปะทุขึ้นมากอีก
– พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจไปพิจารณาถึงข้อดี-ข้อเสีย ในการที่ประเทศไทยจะเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Paficic Strategic Economic Partnership Agreement-TPP) ว่ามีอย่างไรบ้าง เนื่องจากการเข้าร่วมกลุ่ม TPP อยู่ในความสนใจอย่างมากของภาคธุรกิจเอกชน โดยขอให้นำมารายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบในสัปดาห์หน้า
– ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เผยหนี้สินภาคครัวเรือนยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือน ส.ค.เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยยอดเงินกู้ของภาคครัวเรือนจากสถาบันที่รับฝากเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารและสถาบันรับฝากเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.8 ล้านล้านวอน (8.5 พันล้านดอลลาร์) ในเดือน ส.ค.จากเดือนก่อน
– สื่อจีนและต่างชาติ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคาพาณิชย์ (RRR) ลง ภายหลังทางการจีนได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ
– รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 14-15 ก.ย.ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ BOJ หลายรายเตือนว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆ อาจจะฉุดรั้งการลงทุนในด้านทุนของญี่ปุ่น แม้ว่าภาคเอกชนมีผลกำไรที่น่าพอใจ
– สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นปรับตัวย่ำแย่ลงในเดือน ก.ย.ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ร่วงลงและการปรับตัวขึ้นของราคาอาหารสด โดยดัชนีความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปปรับตัวลง 1.1 จุด จากเดือนก่อนหน้า มาแตะที่ 40.6 หลังจากเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.
– รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเริ่มการหารือเพื่อกระตุ้นให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจของญี่ปุ่นส่งเสริมการลงทุนในด้านทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ได้หันกลับมาให้ความสนใจด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง จากเดิมที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นความมั่นคง
– สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดในปี 2559 แม้ประเทศนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) จะปรับลดการผลิตลง เพื่อรองรับกับราคาน้ำมันที่ร่วงลง โดยความต้องการน้ำมันชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มอ่อนแรง ขณะที่การกลับมาส่งออกน้ำมันของประเทศอิหร่านภายหลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรแล้วนั้นอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อุปทานน้ำมันโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก
– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 70 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,700 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,158.94 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ร่วงลง 7.58 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์