SUPER ลั่นรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นลบ. ลุย COD ลมเวียดนาม-ขยายลงทุนต่อเนื่อง

SUPER เดินเครื่อง COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟสแรกในประเทศเวียดนาม 50 เมกะวัตต์ และเตรียม COD เพิ่มอีก 30 เมกะวัตต์ คาดให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 18-19% พร้อมรุกขยายลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบเต็มพิกัด ดันผลงานปีนี้โตเข้าเป้า


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 บริษัทฯได้เริ่มเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ในประเทศเวียดนาม ภายใต้บริษัทย่อยของ บริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) จำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก (Onshore) ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมจะทยอย COD อีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ภายในธันวาคมปีนี้ โดยจะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 445 ล้านบาท ต่อปี และส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในเวียดนามของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 916.72 เมกะวัตต์

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตั้งอยู่ที่จังหวัด ยาลาย ในประเทศเวียดนาม มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบราคารับซื้อ Feed-in Tariff  ในอัตรา 0.085 ดอลล่าร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์( COD )

สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นสองโครงการในจำนวนรวม 5 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 471 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการบนบก (Onshore) มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 300 เมกะวัตต์และในทะเล มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 171 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่บริษัทฯจะทยอยพัฒนาในระหว่างปี 2564 –2566 โดยโครงการวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ที่เริ่ม COD บริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้จากการดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะช่วยผลักดันการเพิ่มสัดส่วนรายได้ และจะสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

โครงการวินด์ฟาร์มฯ ที่ประเทศเวียดนาม ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทประสบความสำเร็จ และสามารถให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่สูงถึง 18-19% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่าในอนาคต อีกทั้งยังมีแผนรุกตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ตลอดจนการเปิดรับพันธมิตรทางการลงทุน เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ” นายจอมทรัพย์ กล่าว

นายจอมทรัพย์ กล่าวอีกว่า ในปี 2564 บริษัทฯยังเชื่อว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 9,000 – 10,000 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้น ทั้งจากการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์จากโรงไฟฟ้าเดิม และโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งปัจจุบัน SUPER มีพอร์ตโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าแล้วนั้น มีจำนวนมากกว่า 131 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,586.32 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตในประเทศ 699.6 เมกะวัตต์ และในต่างประเทศ 886.72 เมกะวัตต์

Back to top button