ดอลล์ปรับลง วิตกศก.โลกสกัดคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) ขณะที่กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เริ่มลดน้อยลง ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1383 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1361 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5253 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5344 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.81 เยน จาก 119.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9580 ฟรังก์ จาก 0.9627 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7272 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7361 ดอลลาร์

นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้น หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลส่งออกและนำเข้าที่น่าผิดหวังในเดือนก.ย. สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกของจีนในเดือนก.ย.ลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.3 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนส.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนก.ย.ร่วงลง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.24 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนส.ค.ที่ลดลง 14.3%

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบทั่วโลกนั้น ได้สกัดคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ และกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน ความวิตกดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อสกุลเงินเยน ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังเผชิญปัจจัยลบ หลังจากนางเลล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟด ที่ออกมาเตือนว่าแนวโน้มเงินฝืดทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และระบุว่าเฟดควรรอดูสถานการณ์จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่า ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเขาระบุว่า ในปัจจุบัน เฟดสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ เหมือนกับในช่วงเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2503 และขณะนี้ เฟดควรพิจารณาอย่างจริงจังต่อการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ย 0%

ทั้งนี้ ความคิดเห็นของนางเบรนาร์ดและนายบูลลาร์ดตอกย้ำถึงมุมมองที่แตกต่างกันของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในประเด็นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนั่นได้ส่งผลให้ตลาดเผชิญกบความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น

Back to top button