เดือนก่อนกองทุนทิ้ง..เดือนนี้ฝรั่งทิ้ง?

ดัชนีมีจุดเริ่มต้นที่ต่ำมาก ๆ บริเวณ 1,520 จุด และสูงสุดอยู่ที่บริเวณ 1,660 จุด โดยมีกรอบที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่บริเวณ 1,600-1,640 จุด


*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงหนึ่งไตรมาสจะเห็นว่า ดัชนีมีจุดเริ่มต้นที่ต่ำมาก ๆ บริเวณ 1,520 จุด และมีจุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณ 1,660 จุด โดยมีกรอบเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่บริเวณ 1,600-1,640 จุด ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เข้ามาเก็งกำไรกันอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็นสตอรี่วัคซีน สตอรี่เดินเรือ สตอรี่อิเล็กฯ สตอรี่น้ำมัน หรือแม้กระทั่งถ่านหินก็มีให้เห็นเป็นเนือง ๆ นะคะ

*ที่ขาดไม่ได้เลยคือ สตอรี่เปิดเมืองที่ผู้คนยังคงเม้าท์แตกจนน้ำลายแตกฟอง เพราะเป็นเรื่องราวที่ทำให้ “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ผลัดกันเข้ามาซื้อหุ้นเป็นรอบ ๆ ซึ่งเห็นได้จากยอดซื้อสุทธิเดือน ส.ค. อยู่ในระดับ 1.87 หมื่นล้าน และในระดับ 5.44 พันล้านตามลำดับ แต่พอถึงเดือน ก.ย. กองทุนก็กลับลำขายหุ้นออกมา 1.53 หมื่นล้าน และสาดหุ้นต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ต.ค. จนยอดขายทะลุขึ้นไปถึงระดับ 1.80 หมื่นล้าน ขณะที่วานนี้ฝรั่งทิ้งตูมเดียวออกมา 3.58 พันล้าน ใครมันจะรับไหวล่ะคุณพี่

*เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทน take profit เมื่อข่าวต่าง ๆ มีความชัดเจนขึ้น “โมนิก้า” ก็ไม่แปลกใจที่เดือนนี้จะเป็นคิวของฝรั่งขายบ้าง! เพราะสตอรี่ที่จะบิ้วให้หุ้นขึ้นต่อเหลือแค่เศรษฐกิจไตรมาส 4 จะฟื้นตัวขนาดไหน? และตัวชี้วัดที่ดีสุดในเที่ยวนี้คือเดือน พ.ย. มีเม็ดเงินสะพัดตามที่คาดหวังขนาดไหน? จังหวะนี้จึงเป็นการเซ็ทเกมรอข่าวดีเข้ามาหนุนเป็นระลอก ดัชนีถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,613.78 จุด ลบไป 9.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.98 หมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็วไงล่ะคะ

*โดยเฉพาะในรายของ OR โดนสถาบันจอมโหดทุบน่วม จนราคาหุ้นไหลลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 27 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time low (นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเป็นเวลา 8 เดือนครึ่ง) มันเป็นสถาการณ์ที่น่าหนักใจสำหรับคนที่ติดหุ้นราคาสูง เพราะแรงขายไม่มีทีท่าจะเบาลงเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ธุรกิจก็ไม่ได้แย่จนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้..ถือยาวไปเลยดีกว่าลูกเพ่!

*อีกรายที่โดนทิ้งลงมาเรื่อย ๆ และพยายามสู้ตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว จนทำให้สภาพของหุ้น PTG ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ก็เป็นเกมที่นักเล่นต้องทำใจสถานเดียว เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ 14.90 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 896 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ท้าทายแนวรับสำคัญบริเวณ 14 บาทจะเอาอยู่หรือเปล่า? จึงอยากให้แฟนคลับคอยดูห่าง ๆ ก่อนแล้วกัน..อิอิอิ

*ขนาดหุ้นเดินเรือ TTA ที่ว่าแน่ ๆ ดี ๆ โบรกเชียร์กันเยอะ ยังโดนรินหุ้นออกมาไม่ว่างเว้น จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 10.70 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 7.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้รู้ว่า “ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน” ได้เป็นอย่างดี และหนทางเดียวที่ทำได้ดีสุด ณ เวลานี้คือ ทำใจนะออเจ้า

*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นโรงกลั่น SPRC ที่เพิ่งชื่นชมกับการขึ้นไป 11.10 บาท พร้อมกับทำไฮในรอบ 1 ปี 10 เดือนได้ไม่กี่สัปดาห์ แต่วานนี้กลับลงมากองอยู่ที่ระดับ 10 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 343 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นโมเมนตัมที่พลิกกลับชนิดตั้งตัวกันไม่ทัน และไม่รู้ว่า วันนี้หุ้นจะลงต่ออีกหรือเปล่า? เพราะขนาดหุ้นหุ้นเทรดบน PE 11 เท่า ยังโดนกระหน่ำขายแบบไม่มีเยื่อใย แล้วจะหวังอะไรได้ล่ะพ่อคุณ!

*ขนาดน้องแบม BAM แกว่งตัวย่ำฐานเป็นเวลาสองเดือน และเพิ่งเริ่มขยับขึ้นรอบใหม่ ยังถูกหางเลขไปกับเขาด้วยเต็ม ๆ และทำท่าจะม้วนตัวกลับมายืนแถวฐาน 18 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ทำใจยอมรับได้ พร้อมกับยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความอีกต่อไป เพราะตราบใดที่ผลงานยังไม่เข้าเป้า และมีประเด็นให้คนเล่นสงสัยถึงโอกาสเติบโตยังเปิดกว้างไหม? ราคาหุ้นก็คงแกว่งตัวแบบนี้ไปอีกนานเจ้าค่ะ

*อีกรายที่อยากให้แฟนคลับเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับคนที่คิดจะช้อนหุ้นก็คือ TQM เพราะราคาหุ้นอยู่ในทิศทางไซด์เวย์ดาวน์ตั้งแต่ตอนพยายามฝืนขึ้นไป 140 บาทในช่วงต้นปี หลังจากนั้นก็ปล่อยเกียร์ว่าง ๆ เป็นระยะ จนวานนี้เห็นหุ้นยืนปิดที่ 102 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาทแบบนี้ สงสัยหุ้นจะลงไปต่ำกว่าร้อยแน่ ๆ เพราะบรรยากาศมันไม่เอื้อให้สวนกระแสเลยพับผ่าสิ!

Back to top button