โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” TFM เป้า 17 บ. ลุ้นกำไรปี 65 โตเด่นแตะ 472 ลบ. ส่งออกกุ้งฟื้น
“ฟินันเซีย ไซรัส” แนะนำซื้อ TFM เป้า 17 บ. ชี้ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เริ่มเห็นการฟื้นตัวในปี 65 หลังจากรับรู้รายได้จาการขายอาหารในอินโดนีเซีย-ปากีสถานหลังช่วง 9 เดือนแรกปี 64 ราว 138 ลบ. และความต้องการกุ้งส่งออกจากไทยกลับมาฟื้นตัว คาดเห็นกำไรปี 65 แตะ 472 ลบ.
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 พ.ย.2564) หลังจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี2564 อยู่ที่ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 49.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน หากไม่รวม FX Gain ที่ 3.20 ล้านบาท และขาดทุนจาก ECL ที่ 12.70 ล้านบาท และการปรับปรุงค่าใช้จ่ายทางภาษีที่ 4.10 ล้านบาท โดยจะมีกำไรปกติเท่ากับ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
สำหรับสาเหตุที่กำไรลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลง แต่ในแง่ส่วนของเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างชัดเจน แม้ในแง่รายได้จะยังลดลงเล็กน้อย ลดลง 2.9% มาจากรายได้อาหารกุ้งเนื่องจากปริมาณขายสินค้ากลุ่ม Fighting Brand ลดลง ด้วย Product Mix ที่ปรับตัวดีขึ้น และเน้นควบคุมต้นทุนการผลิต
ขณะที่ราคาวัตถุดิบค่อนข้างไปในทางทรงตัวจากไตรมาสก่อน ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับดีขึ้นมาอยู่ที่ 11.5% จาก 9.4% ในไตรมาส 2 ปี 2564 แต่ยังต่ำกว่าในไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 17.2% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายปรับลดลง 25.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มาจากการลดลงของค่าตอบแทนพนักงาน และการตั้งสารองผลประโยชน์ของพนักงาน ทำให้ SG&A to Sales ปรับลงเป็น 5.4% จากระดับ 7% ในไตรมาส 2 ปี 2564 และ 6.5% ใน ไตรมาส 3 ปี 2563
ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 172 ล้านบาท ลดลง 49.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 และต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นทั้งกากถั่วเหลือง ปลาป่น และแป้งสาลี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ลดลงเป็น 10.7% จากระดับปกติที่ 17.4% ในงวด 9 เดือนแรกปี 2563
อย่างไรก็ดีแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ปี 2564 อาจทรงถึงฟื้นตัวได้ แม้ปกติเป็น Low Season ของการเลี้ยงสัตว์ แต่ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ความต้องการใช้อาหารสัตว์เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์โดยรวมยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อน ทั้งนี้กำไรงวด 9 เดือนแรกปี 2564 คิดเป็นสัดส่วน 76% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 225 ล้านบาท ลดลง 45.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดูมี Upside ราว 5%-7% จากการฟื้นตัวของ ไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ดีกว่าคาด
นอกจากนี้ทางนักวิเคราะห์ประเมินว่า TFM กำไรในปี 2564 จะผ่านจุดต่ำสุด และยังมั่นใจต่อการฟื้นตัวของกำไรในปี 2565 ภายหลังโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ ทำให้ความต้องการกุ้งส่งออกจากไทยกลับมาฟื้นตัว และการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของไทย รวมถึงเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง คาดช่วยหนุนความต้องการใช้อาหารสัตว์ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะกุ้ง ปลา และปลากะพง กลุ่ม End Customer อย่าง Food Service เช่น ร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม มีความต้องการปลากะพงค่อนข้างมาก ในขณะที่ยังมองแนวโน้มราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์น่าจะเริ่มผ่อนคลายเป็นลำดับ
อย่างไรก็ดีทาง TFM เริ่มรับรู้รายได้จากการขายอาหารกุ้งในอินโดนีเซีย และรับรู้รายได้ในปากีสถานเต็มปี โดย 9 เดือนแรกปี 2564 รับรู้มาแล้ว 138 ล้านบาท คิดเป็น 3.8% ของรายได้รวม ดังนั้นทางนักวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะกลับมาโตเด่น เพิ่มขึ้น 109.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็น 472 ล้านบาท กลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19
ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายที่ 17 บาท อิง PE เฉลี่ย 17.5 เท่า