ทำความรู้จัก BE8 ก่อนเทรดจันทร์นี้ โชว์งบ 9 เดือน โกยกำไรโต 2 เท่า!
ทำความรู้จัก BE8 ก่อนลงสนามเทรด 8 พ.ย.64 เสนอขาย IPO จำนวน 50 ลบ. ราคาหุ้นละ 10 บ. คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 500 ลบ. พร้อมโชว์งบ 9 เดือนปี 64 กำไรโต 2 เท่ามาที่ 60.21 ลบ. จากงวด 9 เดือนปี 63 กำไร 15.76 ลบ. เดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ ปักธงก้าวขึ้นผู้นำ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น”
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ที่จะทำการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี และมีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 8 พ.ย.2564
โดย BE8 และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่ให้บริการแบบครบวงจรในด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM), การวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีดิจิทัล มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเกี่ยวกับระบบ CRM ที่ใช้ซอฟต์แวร์ Salesforce และมีซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบริษัทเพื่อต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึง บริการงานสนับสนุนและดูแลระบบเทคโนโลยีให้กับลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์และพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำของโลก เช่น Salesforce, Google, MuleSoft, Tableau และ Snowflake มีลูกค้าทั้งองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) และขนาดเล็ก (SME) โดยร่วมงานกับลูกค้ามามากกว่า 250 โครงการ ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ BE8 มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 150 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 500 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 32.26 เท่า
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีก 2 ราย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า จำกัด
สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงิน 1. ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ 25 ล้านบาทภายในปีไตรมาส 4/2565 2. ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 25 ล้านบาทภายในไตรมาส 4/2565 3. ลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือธุรกิจอื่น 330 ล้านบาทภายในปี 2566 และ 4. เงินทุนหมุนเวียนส่วนที่เหลือจากข้อ 1-3 ภายในปี 2566
ขณะที่รายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ ในปี 2561 -2563 เท่ากับ 211.05 ล้านบาท 310.43 ล้านบาท และ 311.79 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 21.57 ด้านกำไรสุทธิปี 2561 – 2563 อยู่ที่ 32.99 ล้านบาท 64.26 ล้านบาท และ 23.64 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 60.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 282 เมื่อเทียบจากงวด 9 เดือนแรกปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 15.76 ล้านบาท
นอกจากนั้นบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ BE8 ว่า คาดรายได้มีทิศทางการเติบโตที่สดใสจากรายได้ประจำ โดยรายได้ประจำของ BE8 คิดเป็นสัดส่วนที่ 39% ของรายได้รวมในปี 2563 ซึ่งทำให้บริษัทมีฐานรายได้ที่มั่นคงและมีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทที่ปรึกษาอื่นๆ ที่แหล่งรายได้หลักมาจากงานโครงการ BE8
พร้อมกันนี้ คาดว่า BE8 จะรายงานกำไรปกติปี 2564-66 ที่แข็งแกร่งด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 22.7% หนุนจากรายได้ที่สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรที่มากขึ้น คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่อัตรา 20.3% /22.3% /25.4% หนุนจากรายได้จากด้านเทคโนโลยีและที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่สูงขึ้นเพราะคาดว่าเงินทุนที่ได้รับจากการเปิดขาย IPO จะช่วยให้ BE8 เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนและจำนวนพนักงานได้
ดังนั้นจึงคาดว่าการขยายธุรกิจในต่างประเทศทั้งในเวียดนามและสิงคโปร์จะเป็นอีกปัจจัยหนุนและคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปี 2564-66 จะอยู่ที่ 20.6%/21.4%/21.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 20.8% ทั้งนี้ในปี 2563 อัตรากำไรปกติของ BE8 อยู่ที่ 20.8% สูงกว่าระดับเฉลี่ยของคู่แข่งในประเทศที่อยู่ที่ 16.9%
อย่างไรก็ตาม คำนวณมูลค่ายุติธรรม (fair value) ณ สิ้นปี 2565 ของ BE8 ในกรอบ 2.9-3.2 พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนราคาเป้าหมายที่ 14.7-15.9 บาท ตัวเลขทั้งกรอบบนและล่างคำนวณจาก PER ที่ 33.29 เท่า ซึ่งเท่ากับ 1.5SD เหนือกว่า PER เฉลี่ยช่วง 5 ปี ของคู่แข่ง โดยคำนวณตัวเลขกรอบล่างจาก adjusted core EPS ที่ 0.44 บาท ซึ่งไม่รวมการดำเนินงานในเวียดนาม