เปิดโผตัวเต็งเข้า SET50-SET100 รอบใหม่ AWC, TIDLOR, BANPU, KEX ขึ้นแท่นบลูชิพ
เปิดโผตัวเต็งเข้า SET50-SET100 รอบใหม่ AWC, TIDLOR, BANPU, KEX ขึ้นแท่นบลูชิพ ฟาก SET100 นำทีมโดย AWC, TIDLOR, KEX, BPP, STARK, BLA, RCL, EPG, TTA, SIRI
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าและคัดออกจากเกณฑ์คำนวณดัชนี SET50 และ SET100 รอบครึ่งปีแรก 2565 (ระหว่าง 1 ม.ค. 2565 ถึง 30 มิ.ย. 2565) มานำเสนอ โดยคาดว่าจะประกาศภายในเดือนนี้ และก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศรายชื่อหุ้นเข้าคำนวณรอบใหม่กลางเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตามการนำเสนอข้อมูลครั้งนี้อ้างอิงข้อมูลมาจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ซึ่งได้ประเมินกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบใหม่อีกด้าน หลังจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2564 ได้ประเมินว่า DELTA เตรียมที่จะถูกถอดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบถัดไปค่อนข้างแน่นอน
โดยบทวิเคราะห์ล่าสุด (9 พ.ย.2564) จึงได้ทำการ Update กลุ่มหุ้นที่ที่มีโอกาสถูกนำเข้าและถอดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบถัดไป โดยใช้ข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 5 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา (ข้อมูลจริงจะใช้ถึงวันที่ 30 พ.ย.2564) โดยพบว่ามีรายละเอียดดังนี้
ด้านกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ได้แก่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC,บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU, และ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX
ส่วนกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ได้แก่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ,บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF,บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC,บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA
ด้านหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET100 ในรอบถัดไป ได้แก่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ,บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ,บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP,บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK,บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA,บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL,บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG,บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA,บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI
ด้านหุ้นที่มีโอกาสถูกถอดออกจากดัชนี SET100 ในรอบถัดไป ได้แก่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA,บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF,บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL,บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS,บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรื PRM,บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV,บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF,บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN
ทั้งนี้ในส่วนของ GULF และ BJC นั้น ตัวหุ้นจะหลุดจากดัชนี SET5O และ SET100 ถ้าใช้ สัดส่วน Turnover ratio ที่ 2.5% เป็นอัตราส่วนขั้นต่ำในการคำนวณ แต่หากทางตลท.ใช้อัตราส่วนที่ต่ำกว่านี้ หุ้นทั้ง 2 จะสามารถผ่านเกณฑ์และดำรงอยู่ในดัชนีต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้การคำนวณในส่วนของหุ้น 2 ตัวนี้ จึงยังคงมีความไม่แน่นอนในระดับสูงโดยจะต้องติดตามข้อมูลจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนนี้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วน DELTA บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ตลท. ออกรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นแนวทางการปรับปรุงดัชนี โดยพร้อมปรับเกณฑ์ในส่วนสภาพคล่องให้คำนึงถึงข้อมูลหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายฯด้วย ซึ่งจะส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่ เช่น DELTA ที่เคยเข้าข่ายมาตรการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาอยู่หลายเดือนจะไม่ถูกพิจารณาข้อมูลในเดือนนั้น ๆ โดยอัตโนมัติ
โดยจากการตรวจสอบล่าสุดจะทำให้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา DELTA จะมีเดือนที่ผ่านเกณฑ์สภาพคล่องเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 9 เดือน และจะส่งผลให้ตัวหุ้นถูกถอดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบถัดไปโดยทันที
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน