ยิ่งประมูลเร็ว(4 จี)ยิ่งดีขี่พายุ ทะลุฟ้า
โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 2 จี มุ่งเน้นการใช้งานทางเสียง เป็นด้านหลัก คุณภาพชีวิตคนไทย ก็มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะไปไหนก็ติดต่อสื่อสารหากันได้
โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 2 จี มุ่งเน้นการใช้งานทางเสียง เป็นด้านหลัก คุณภาพชีวิตคนไทย ก็มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะไปไหนก็ติดต่อสื่อสารหากันได้
พอมา 2 จีครึ่ง เริ่มมีการใช้งานทางเสียงและข้อความมากขึ้น คุณภาพชีวิตก็ยิ่งสะดวกสบายขึ้นมาเยอะ แต่พอเป็น 3จีนี่สิ การใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือเริ่มครบเครื่องยิ่งขึ้น
ทั้งคุณภาพเสียงที่ใสปิ๊งและข้อมูลที่รอบด้านกว้างขวางยิ่งขึ้น
แต่การจะเข้าสู่ยุค 4 จีนี่สิ ผู้รู้ทางโทรคมนาคมเขาบอกว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจประเทศไทยเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวจะทำธุรกิจได้อย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่เจรจา ยืนยันการตัดสินใจ วางบิล ยันชำระเงินหรือรับเงิน
การใช้ข้อมูล จะลื่นปรื๊ดๆ จากระบบ 4 จี ที่เปรียบเสมือนการบรรจุเอาซุปเปอร์ บรอดแบนด์เอาไว้ในเครื่อง
3 จีว่าเร็วแล้ว แต่ 4 จียิ่งจะเร็วกว่าเป็นเท่าตัว และคลื่นก็ยังมีความเสถียรมากกว่า
คำพูดที่ว่า “4 จีจะเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจประเทศไทย” อาจจะไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยไปนัก และก็มีผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รับรองว่า ภายใน 5 ปี มือถือระบบ 4จีจะเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจถึง 1.3 ล้านล้านบาท
นั่นหมายถึงว่า ปีหนึ่งโทรศัพท์มือถือระบบ 4จี จะช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจได้ถึง 2.6 แสนล้านบาทโดยประมาณ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ใช่น้อยเลย
ฉะนั้น ยิ่งเปิดประมูลใบอนุญาต 4 จีได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้นเท่านั้น
ในทางกลับกัน หากยิ่งช้าไป ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ก็จะทำให้เกิดการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ธุรกิจอย่างใหญ่หลวง
ความสำเร็จทางเศรษฐกิจยุคนี้ วัดกันด้วยความเร็ว หรือที่เรียกว่า “อีโคโนมี่ ออฟ สปีด”
ยิ่งภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยในเวลานี้ มีความต้องการการลงทุนขนาดใหญ่เป็นอันมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 4จี ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ทั้งหมด
รัฐไม่ต้องรับภาระลงทุนเลย แต่เอกชนเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งภายหลังเอกชนได้รับใบอนุญาตจำนวน 4 ใบไปแล้ว ก็จะต้องมีการลงทุนทางด้านโครงข่าย เป็นมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1.6 แสนล้านบาท
ใบอนุญาต 4 ใบ จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 7.3 หมื่นล้านบาท เงินที่ได้รับจากการประมูล ก็จะมีการนำส่งเข้ากระทรวงการคลังโดยตรง โดยไม่มีการนำเงินไปลงทุนผ่านหน่วยงานใดของรัฐทั้งสิ้น
เงินกว่า 7 หมื่นล้านบาท ก็น่าจะช่วยไปเสริมพยุงฐานะทางการคลังของรัฐบาลได้ไม่น้อย
ตามกำหนดการเดิม จะมีการประมูล 4 จีบนคลื่น 1800MHz จำนวน 2 ใบ ในวันที่ 11 พ.ย. 58 และ 4 จีบนคลื่น 900MHz จำนวน 2 ใบในวันที่ 15 ธ.ค. 58
การเลื่อนประมูล 4 จีบนคลื่น 900MHz ให้เร็วขึ้น มาเป็น 12 พ.ย. 58 กล่าวคือ วันรุ่งขึ้นหลังประมูล 4 จีบนคลื่น 1800MHz แล้ว ผมก็ว่า เป็นเรื่องที่เหมาะควรอย่างยิ่ง
เมื่อพร้อมแล้ว จะมัวรีรอไปทำไม มันเป็นทั้งความจำเป็นและป้องกันปัญหาหน่วงเหนี่ยวการประมูลกันอีก เหมือนเมื่อครั้งประมูล 3 จีในคราวแรก
มือถือ 3 จี ควรจะมีได้ตั้งแต่ปี 53 แล้ว แต่ในนาทีสุดท้าย ก่อนวันประมูลเพียง 1 วัน ศาลปกครองได้สั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการประมูลไว้ก่อน
ช้าไปถึง 2 ปี ศาลปกครองจึงตัดสินยกคำร้องสหภาพแรงงาน TOT ประเทศชาติก็เสียโอกาสในการเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิตอลไปอีก 2 ปีเช่นกัน
นั่นคือฝันร้าย กสทช.เลื่อนประมูล 4 จีให้เร็วขึ้น จึงชอบแล้วด้วยประการทั้งปวง