RATCH ควัก 1.8 พันลบ. ซื้อหุ้น “โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ” อินโดฯดันถือ 90%
RATCH ควัก 1.8 พันลบ. เข้าซื้อหุ้น “โรงไฟฟ้าพลังน้ำ” ในอินโดนีเซีย ดันสัดส่วนถือ 90% โดยมีกำลังผลิต 180 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 30 ปี กับการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดฯ ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2583
บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) บริษัทย่อยทางอ้อมที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งจำนวน ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญ Fareast Renewable Development Pte. Ltd. (FRD) เพิ่มอีก 40% โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 13,544,257 หุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 54.31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 1,789 ล้านบาท จาก Hydro Sumatra International Pte. Ltd. (HSI) ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้ามาถือหุ้นแทน Fareast Green Energy Pte. Ltd. เนื่องจากการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัทของผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ ภายหลังจากการโอนหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ โครงสร้างผู้ถือหุ้น FRD จะประกอบด้วย RHIS 90% (เดิม 50%) และ HSI 10% ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมของบริษัทฯ ในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1 ผ่าน RHIS และ FRD เพิ่มขึ้นเป็น 47.89% (เดิม 26.61%) และคณะกรรมการของ FRD จะประกอบด้วยผู้แทนของ RHIS จำนวน 3 คน จากจำนวนกรรมการทั้งหมด 4 คน
อนึ่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1 เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่าน (run-of-river hydroelectric power plant) ขนาดกำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอาซาฮาน จังหวัดสุมาตราเหนือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 30 ปีกับการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2583
ด้านนางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า การลงทุนใน FRD ครั้งนี้ ไม่เพียงตอบสนองจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ด้านการพัฒนากำลังการผลิตพลังงานทดแทนของบริษัทฯ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ FRD สำเร็จด้วย ผลจากการลงทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าอาซาฮาน1 เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ รับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไรจาก FRD เป็นเงิน 185.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว
“บริษัทฯ ได้จัดเตรียมเงินลงทุนสำหรับธุรกรรมนี้ จากสินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืนที่ได้บรรลุข้อตกลงกับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ความสำเร็จครั้งนี้เป็นความพยายามของบริษัทฯ ที่จะพัฒนากำลังการผลิตด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นให้ถึง 2,500 เมกะวัตต์ในปี 68 และ 4,000 เมกะวัตต์ในปี 73 โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเป็นหนึ่งในเป้าหมายนอกเหนือจากพลังงานลม แสงอาทิตย์ และชีวมวล ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการอาซาฮาน1 ยังช่วยเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าในจังหวัดสุมาตราเหนือ ส่งผลให้อัตราการเข้าถึงไฟฟ้าของประชาชนในจังหวัดสุมาตราเหนือเพิ่มขึ้น เสริมส่งคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมดีขึ้นด้วย” นางสาวชูศรี กล่าว
ภายหลังการลงทุน บริษัทฯ จะรับรู้กำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ 86.20 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตพลังงานทดแทนของบริษัทฯ รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,345.51 เมกะวัตต์ คิดเป็น 16.3% ของกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน1 ได้รับรางวัล Renewable Energy Deal of the Year ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ จาก The Asset Triple A Infrastructure Awards 2021 อันเป็นผลจากความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ที่มีบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ หรือ IFC เป็นผู้จัดการเงินกู้และให้กู้ร่วม โรงไฟฟ้าแห่งนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทดแทน ที่ช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้าของจังหวัดสุมาตราเหนือมีความมั่นคงมากขึ้น และยังช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ