Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย
สรุปภาวะตลาดเช้า
– SET Index ปรับลดลง 7.25 จุด (-0.51%) ปิดภาคเช้าที่ 1,418.07 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 22,956.11 ล้านบาท
– Most Positive Impact: AOT (+0.30 จุด) PTT (+0.30 จุด) TOP (+0.21 จุด)
– Most Negative Impact: BAY (-1.94 จุด) ADVANC (-0.94 จุด) U (-0.59 จุด)
จุดสังเกต: กลุ่มธนาคารฯ วันนี้ลงกว่า 1.46% ถ่วงตลาดกว่า 3.2 จุด ซึ่งก็ไม่น่าแปลใจเพราะการปรับลดลง BAY 6.7% มีผลทำให้กลุ่มธนาคารต้องปรับลงกว่า 0.19% เนื่องจาก BAY มีขนาด Market Cap คิดเป็น 13% ของ Market Cap กลุ่มธนาคารฯ เพราะฉะนั้นการลงของ ธนาคารฯ วันนี้จึงยังไม่น่าจะใช่สัญญาณลบของกระแสเงินไหลออกแต่อย่างใด การลงของธนาคารฯน่าจะเป็นแค่เพียงการขายทำกำไรระยะสั้น และเชื่อว่ามีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง
แนวโน้มตลาดบ่าย
“SET Index ไม่ไม่ถึงฝัน บ่ายนี้อาจลงต่อ แต่ไม่น่าจะโหดจนต่ำกว่า 1,412 จุด”
ดัชนีไปไม่ถึงฝั่งฝัน SET มาถึงทางตัน 1,429.5 จุด ห่างจากเป้าหมายของฝ่ายวิจัยในสัปดาห์นี้ที่ 1,432 จุดพอสมควร (เป็นเป้าหมายที่วางเอาไว้ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2558 ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ตลาดจะย่อตัวไม่ต่ำกว่า 1,400 จุด ก่อนจะดีดกลับเพื่อมาทดสอบ 1,432 จุดในช่วงปลายสัปดาห์)
ตลาดเริ่มมีอาการขายทำกำไรเข้ากดดัน ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีโอกาสที่ช่วงบ่าย SET Index อาจจะต้องลงต่อ โดยมีสัญญาณที่น่าจับตาคือค่า Basis ระหว่าง S50Z15 – SET50 ปัจจุบันเป้น Premium อยู่ 1.2 จุด ใกล้เคียงทฤษฎีที่ 1.7 จุด ถือว่าพื้นที่ในการขึ้นจำกัดมากกว่าเดิม หากเทียบกับเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2558 ค่า Basis ยังติดลบอยู่กว่า 15 จุด
เชื่อว่าดัชนีมีโอกาสที่จะย่อตัวต่อในภาคบ่าย นักลงทุนสามารถเลือกเล่นกลยุทธ์ Short ใน S50Z15 จุดได้ โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 914 จุดตัดขาดทุน 924 จุด
ภาพของการถูกขายทำกำไร น่าจะเป้ฯแค่ช่วงสั้นๆ SET Index ไม่น่าจะโหดเหี้ยมจนลึกเกิน 1,412 จุด เมื่อตั้งหลักได้ คาดสัปดาห์หน้าดัชนีน่าจะดีดกลับขึ้นได้อีกครั้ง โดยปัจจัยหนุนสำคัญคือกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ ยังมีโอกาสที่จะไหลเข้าอีกซักพัก โดยดูจากสัญญาณการเข้าซื้อ เข้าซื้อตราสารหนี้ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.2558 กว่า 6.9 หมื่นล้านบาท (เป็นเดือนแรกของปีที่ซื้อเยอะขนาดนี้) ที่น่าสนใจก็คือเป็นการเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นต่ำกว่า 1 ปีถึง 4.8 หมื่นล้านบาท บ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากระแสเงินที่ไหลเข้ามานี้ เป็นเงินร้อนและเน้นไปที่การเก็งกำไรเงินบาทเป็นหลัก ซึ่งที่เข้ามาตั้งแต่ต้นเดือน เชื่อว่ายังน้อยไปและน่าจะมีเข้ามาเติมอีก
ประเด็นจับตา/ติดตาม:
(+) การรายงานผลประกอบการงวด 3Q58 : จะเริ่มด้วยกลุ่มธนาคาร ภาพรวมกำไรกลุ่มจะออกมาแย่ QoQ และ YoY แต่ตลาดรับรู้ในส่วนนี้ไปมากแล้ว
(+/-) วันที่ 19 ต.ค.2558 ติดตาม GDP ใน 3Q58 ของจีน : ตลาดคาดไว้ที่ 6.8% yoy หดตัวจาก 2Q58 ที่ 7.0% yoy
(+) วันที่ 22 ต.ค.2558 การประชุม ECB : คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ 0.05% ต่อไป และอาจมีการพูดถึงโอกาสในการขยายขนาด QE หลังเงินเฟ้อยุโรปอยู่ต่ำใกล้ 0%
หุ้นแนะนำ: CK AOT และ ERW เป็น Top Picks และให้เก็งกำไรผลประกอบการเด่น KCE SAWAD BA
หุ้นเก็งกำไรบ่าย : TTCL เป้าหมาย 25.50 บาท ตัดขาดทุน 23.5 บาท
Investment Theme : หุ้น Value Plays กลุ่มพลังงานและธนาคารฯ ที่มี PE และ PBV ต่ำ PTT SCB TCAP // หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งเป็น รับเหมาฯ CK PYLON กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล AEONTS SAWAD MTLS KTC ส่วนกลุ่มค้าปลีก GLOBAL HMPRO ROBINS กลุ่มอสังหาฯ SPALI กลุ่มยานยนต์ SAT // หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า SVI VNG MCS // เก็งหุ้นผลประกอบการ 3Q58 โดดเด่น CPF KCE GUNKUL BLA และ หุ้น 2H2015 Earning Growth MINT CENTEL CPN AOT