MTLS กำไรแข็งแกร่ง

มีการวิเคราะห์กันว่า MTLS ยังมีแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อและคุณภาพหนี้ โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อยังคึกคัก อย่างยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ในไตรมาส 3 ปี 58 พุ่งเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน ซึ่งเกิดจากฐานลูกค้าที่มากขึ้นจากสาขาที่เปิดไปตั้งแต่ต้นปี


คุณค่าบริษัท

 

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS ยังมีแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อและคุณภาพหนี้ โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อยังคึกคัก อย่างยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ในไตรมาส 3 ปี 58 พุ่งเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน ซึ่งเกิดจากฐานลูกค้าที่มากขึ้นจากสาขาที่เปิดไปตั้งแต่ต้นปี

ส่วนการเปิดสาขาเพิ่มในไตรมาส 3 ปี 58 อีกราว 180 สาขา รวมเปิดไปแล้วกว่า 400 สาขาตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งหมดเป็น 900 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 58 และการเพิ่มสินค้าใหม่เช่นสินเชื่อโฉนดที่ดิน สินเชื่อส่วนบุคคล และนาโนไฟแนนซ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดี ขณะที่สิ้นไตรมาส 3 มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 90 ล้านบาท, 270 ล้านบาท และ 50 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 58 จะยิ่งดีขึ้นตามฤดูกาลการจับจ่ายใช้สอย จึงยังคงประมาณการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านคุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี NPL Ratio อยู่ต่ำกว่า 1.1% และ Coverage ratio น่าจะแข็งแกร่งต่อเนื่องมากกว่า200%

สิ่งสำคัญ คือ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 582.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 446.13 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการให้บริการสินเชื่อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 183.42 ล้านบาท หรือ 0.09 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 117.65 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น

สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,115.90 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 872.61 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 364.86 ล้านบาท หรือ 0.17 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 258.34 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น เป็นการยืนยันว่าบริษัทมีกำไรที่แข็งแกร่งจริงๆ

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2558 ลง 20% เป็น 790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มจากคาดการณ์เดิมที่ 46% ของรายได้รวมเป็น 50% ของรายได้รวมตามค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาที่มากกว่าคาดการณ์ไว้ ส่วนกำไรปี 2559 คาดการณ์ที่ 1,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” โดยปรับมาใช้ราคาเหมาะสมปี 2559 ที่ 25 บาท อิง PEG 1.2 เท่า

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ 792,500,000 หุ้น 37.38%

2.นางดาวนภา เพชรอำไพ 655,000,000 หุ้น 30.90%

3.นายวศิน เดชกิจวิกรม 67,113,000 หุ้น 3.17%

4.นายสรชัย เดชกิจวิกรม65,000,000 หุ้น 3.07%

5.นางฉัตรสมร ติรกานันท์ 41,242,500 หุ้น 1.95%

 

รายชื่อกรรมการ

1.พล.ร. อ.อภิชาติ เพ็งศรีทอง ประธานกรรมการ

2.นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร

3.นางดาวนภา เพชรอำไพ กรรมการผู้จัดการ

4.นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ กรรมการ

5.นางดาวนภา เพชรอำไพ กรรมการ

Back to top button