TTB ทุ่ม 1.6 พันลบ. ซื้อหุ้น “ธนชาตประกันภัย-หลักทรัพย์ธนชาต” หวังเพิ่มศักยภาพธุรกิจ
บอร์ด TTB ไฟเขียวทุ่ม 1.6 พันลบ. ซื้อหุ้นธนชาตประกันภัย 10% และ หลักทรัพย์ธนชาต 10% หวังเพิ่มศักยภาพธุรกิจสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างกัน และเพิ่มโอกาสแข่งขันในอนาคต
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ ได้มีมติอนุมัติให้ธนาคารฯ (ในฐานะผู้ซื้อ) เข้าทำการซื้อขายหุ้นใน (ก) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) (ธนชาตประกันภัย) ในสัดส่วนร้อยละ 10 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนชาตประกันภัย และ (ข) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (หลักทรัพย์ธนชาต) ในสัดส่วนร้อยละ 10 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของหลักทรัพย์ ธนชาต จาก Scotia Netherlands Holding B.V. (BNS) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ The Bank of Nova Scotia
สำหรับธุรกรรมการซื้อหุ้นดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 1,605 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น มูลค่าธุรกรรมการซื้อหุ้นธนชาตประกันภัย ประมาณ 1,102 ล้านบาท และมูลค่าธุรกรรมการซื้อหุ้น หลักทรัพย์ ธนชาต ประมาณ 503 ล้านบาท โดยเมื่อบรรลุเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ ตามสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวแล้วคาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้นในทั้งสองบริษัทจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนธันวาคม ปี 2564
โดยธนาคารฯ เข้าทำธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้ถือหุ้นที่จะเกิดจากการสร้างพันธมิตรหลัก (Anchor partner) ทางธุรกิจและการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างกัน เพื่อยกระดับการให้บริการและการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธนาคารฯ ในอนาคต
อนึ่งธนชาตประกันภัยนั้นเป็นบริษัทที่มีความชำนาญและอยู่ในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยมายาวนาน ทั้งยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.80 ถือเป็นลำดับที่ 7 ของอุตสาหกรรม และมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 4.90 พันล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประกันวินาศภัยและมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงถึงร้อยละ 1,381 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ร้อยละ 140
ทั้งนี้ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งนั้นธนาคารฯ มองเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของธนชาตประกันภัยที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรหลักที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเช่าซื้อ (Hire purchase) ของธนาคารฯ ด้วยการร่วมพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันภัยปีที่ 2 หลังจากสัญญาประกันภัยปีแรกสิ้นสุดลงและ ปี ถัดๆ ไป นอกจากนั้นยังมองถึงโอกาสในการต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการด้านรถยนต์ (Car Ecosystem) อย่างครบวงจรในอนาคต
ส่วนหลักทรัพย์ธนชาต เป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่อยู่ในธุรกิจมายาวนานและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 3.00 พันล้านบาท และมีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ ร้อยละ 61 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ร้อยละ 7 ย่อมสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าหากจะเข้ามาเป็นพันธมิตรหลักของธนาคารฯ ใน 2 ส่วนด้วยกัน ในส่วนแรก ได้แก่ บริการด้านการลงทุนสำหรับลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายย่อยกลุ่มมั่งคั่งซึ่งเพิ่มขั้นอย่างมีนัยสำคัญภายหลังการวมกิจการด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการจากหลักทรัพย์ธนชาตซึ่งมีความหลากหลาย และเมื่อรวมกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ธนาคารฯ มีอยู่ในปัจจุบัน ก็จะช่วยยกระดับบริการด้านการลงทุนให้มีความครบครัน ในที่เดียว (One stop service) และช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการพอร์ตความมั่งคั่ง (Wealth management) ได้ครบทุกแง่มุมการลงทุนแบบ 360 องศา
อีกทั้งในส่วนที่สอง ได้แก่ บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ซึ่งหลักทรัพย์ธนชาตในฐานะพันธมิตรหลักก็จะช่วยยกระดับบริการด้านการบริหารเงินทุนที่ธนาคารฯ มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ด้านวาณิชธนกิจ บริการด้านตลาดทุน รวมถึงการนำเสนอเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 ธนชาตประกันภัยและหลักทรัพย์ธนชาต มีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 670 ล้านบาท และจำนวน 500 ล้านบาท ตามลำดับ