SMD วิ่ง 5% โบรกฯ คาดกำไรปี 65 แตะ 330 ลบ. รับยอดขายเครื่องมือแพทย์พุ่ง

SMD วิ่ง 5% โบรกฯคาดกำไรปี 65 แตะ 330 ล้านบาท หลังยอดขายเครื่องมือแพทย์พุ่ง โดยในปีเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะขายเครื่องมือแพทย์อย่าง Telemedicine โดยตั้งเป้ายอดขายเครื่องราว 100-200 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีแบ็คล็อกในปี 2564 อยู่ที่ 300 ล้านบาท จากอานิสงส์การขายเครื่องมือแพทย์เกี่ยวเนื่องโควิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 พ.ย. 64) ราคาหุ้นของบริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD โดย ณ เวลา 10:45 น. อยู่ที่ระดับ 14.60 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 5.04% โดยทำจุดสูงสุดที่ 14.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 13.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61.76 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 บริษัทเซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ตั้งเป้ารายได้ปี 2564-2567 เติบโตด้วยราคาขายเฉลี่ย (CAGR) เพิ่มขึ้น 15% โดยมีเป้ารายได้ปี 2565 ที่ 1.8 พันล้านบาท จาก 1) ยอดขาย ATK เป้า 100 ล้านบาท 2) เครื่อง High flow ราว 500-600 เครื่อง (รัฐบาลมีงบประมาณการซื้อเครื่อง High flow 3-4 พันเครื่อง ราคาเรื่องละ 1.8-2 แสนบาท) และจากยอดขาย accessories ที่ต้องเปลี่ยน 2 ครั้งต่อเดือน ราคาราว 2 พันบาท

3) เครื่อง AED เป้ายอดขาย 2 พันชิ้นต่อปี มูลค่าราว 100 ล้านบาท 4) คาดเริ่มรับรู้เครื่องมือแพทย์ให้เช่า เครื่องให้น้ำเกลือล็อตแรกราว 100-200 ชุด (จาก 2500 ชุด) ในช่วงไตรมาส 1/65 คิดเป็นยอดราว 50 ล้านบาท และ 5) สินค้าใหม่ Telemedicine ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้งานมากขึ้นในอนาคต โดยจะเป็นทางเลือกใหม่ในการพบแพทย์และส่ง prescription ผ่านทางออนไลน์ โดยมี platform Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลและผู้ป่วยสามารถซื้อยาได้เองจากร้านขายยาใกล้เคียง โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 100-200 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าโดยรวมจะยังคงรักษาระดับ GPM ได้ในระดับ 40-44%

ทั้งนี้ คงกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 330 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 230% เมื่อเทียบจากปีก่อน) โดยคาดรายได้ที่ 1.53 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 132% เมื่อเทียบจากปีก่อน) โดยได้อานิสงส์จากการขายเครื่องมือแพทย์เกี่ยวเนื่องโควิด และ ณ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 มี backlog อยู่ราว 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับกำไรปี 2565 เพิ่มขึ้น 64% ที่ 333 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบจากปีก่อน) จากการปรับรายได้ขึ้นมา หรือเพิ่มขึ้น 19% ที่ 1.77 พันล้านบาท โดยบริษัทมีแผนการขยายขอบเขตการขายเครื่องมือแพทย์อย่าง Telemedicine อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ยังมีมุมมองว่าความต้องการเครื่องมือแพทย์เกี่ยวเนื่องโควิดเช่นเครื่อง High flow อาจลดลงจากปี 2564 จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มดีขึ้น แต่จะยังได้แรงหนุนจากงบประมาณภาครัฐฯ ที่ให้งบประมาณกระทรวงสาธารณสุขสูงขึ้น หรือเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบจากปีก่อน ที่ 2 แสนล้านบาท

โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 20.00 บาท โดยฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับค่า PER ลงมาที่ 13.0 เท่า จากเดิม 20.0 เท่า (เทียบเท่า regional peers 12.6 เท่า) แนมโน้มปี 2565 อาจยังเติบโตได้เล็กน้อยจากงบประมาณภาครัฐที่สูงขึ้น และบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มสินค้า Telemedicine ซึ่งยังเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มองยังมีความเสี่ยงหากสถานการณ์โควิดคลี่คลายอาจทำให้ยอดขายเครื่องมือแพทย์บางชนิดลดลง

Back to top button