ก.ล.ต. มาถึงจุดนี้ได้ไง!โมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” ค่อนข้างวิตกกังวลกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่แกว่งตัวไปมา จนเป้าหมายในการลงทุนเบี่ยงเบนไปจากเป้าเดิมที่วางไว้ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะนักเล่นหลายรายมีโอกาสพลาดจังหวะในการทำรอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนค่อนข้างให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษในช่วงที่ดัชนีกำลังอยู่ในวงรอบ sideway up พะยะค่ะ
*เดิมที “โมนิก้า” ค่อนข้างวิตกกังวลกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่แกว่งตัวไปมา จนเป้าหมายในการลงทุนเบี่ยงเบนไปจากเป้าเดิมที่วางไว้ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะนักเล่นหลายรายมีโอกาสพลาดจังหวะในการทำรอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนค่อนข้างให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษในช่วงที่ดัชนีกำลังอยู่ในวงรอบ sideway up พะยะค่ะ
*ในระหว่างที่เดี๊ยนจับจ้องเรื่องสภาวการณ์ลงทุนอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์-โซเชียลว่า ในวันศุกร์ที่ 16 ต.ค. เวลา 10.00 น. และ 14.00 น. จะมีการรวมตัวกันของชาวเน็ตเพื่อทำการโจมตีเว็บไซต์ บล.เอสบีไอ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์น้องใหม่ไฟแรง www.sbito.co.th ด้วยการกดปุ่ม F5 รัวๆ เพื่อให้หน้าเว็บดังกล่าวมีการดาวน์โหลดหน้าเว็บใหม่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้เว็บล่มไม่เป็นท่าไงล่ะค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ละทิ้งหน้ากระดานหุ้น พร้อมกับออกไปแสวงหาข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที และในระหว่างที่กำลังจะออกไปหาข้อมูล “เฮียรพี” ก็สวนโพล่งออกมาในทันทีว่า โบรกเกอร์บางรายมีการจัดโปรโมชั่นแบบจัดเต็ม ซึ่งอาจไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จนอาจนำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ก.ล.ต.สั่งให้โบรกเกอร์ดังกล่าวชี้แจง และส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกลับมาที่สำนักงานโดยเร็วเจ้าค่ะ
*พระเจ้า! ทั้ง 2 เรื่องเกิดขึ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกันแบบนี้ มันทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกสงสัยถึงพฤติกรรมของ ก.ล.ต. ขึ้นมาในทันที เพราะเรื่องที่ควรจะเข้าไปจัดการเป็นอันดับแรกคือ โบรกเกอร์บางแห่งกำลังสุมหัวทำเรื่องชั่วๆ เพื่อทำลายโบรกเกอร์ดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วงการนี้มีมาเฟียคุมอยู่อีกทอดหนึ่ง และประเด็นตรงนี้ก็ทำให้เดี๊ยนมั่นใจไปอีกชั้นหนึ่งว่า “เสือกระดาษ” มันเป็นแบบนี้เอง!
*สิ่งที่เดี๊ยนสนใจสุดๆ ในตอนนี้เป็นเรื่องของคำเชิญชวนให้ถล่มเว็บไซต์น้องใหม่นั้น มันเป็นการยัดข้อหาบ่อนทำลายวงการโบรกเกอร์! พร้อมกับบรรยายเป็นตุเป็นตะว่า คิดค่าคอมมิชชั่นถูกๆ แต่อุตสาหกรรมแย่ลง มนุษย์ทองคำอย่างเราๆ ยอมไม่ได้! มันใช่เหตุผลที่น่ารับฟังจริงเหรอ? หรือว่า ห่วงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง จึงต้องทำให้คนอื่นเกิดอารมณ์ร่วมตามไปด้วย เพื่อทำให้แผนการนี้สำเร็จตามเป้าหมายไงล่ะค่ะ
*น่าเสียดายที่ “โมนิก้า” ไม่ได้กินหญ้าเป็นอาหารหลัก จึงมีความคิดเป็นของตัวเองว่า การประกาศลดค่าคอมมิชชั่นให้กับนักลงทุนรายย่อยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการเปิดหน้าชกกับโบรกเกอร์ใหญ่โดยตรง และคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็คือ “แมงเม่า” ส่วนนักลงทุนขาใหญ่ได้เปรียบนักลงทุนรายย่อยมานานแล้ว ซึ่งคนในวงการต่างรู้ดีว่า โบรกเกอร์มีการรีเบตให้กับขาใหญ่เป็นประจำอยู่แล้วนะคะ
*นั่นหมายความว่า ก.ล.ต.กำลังปิดกั้นทางเลือกของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ทำให้หน่วยงานนี้ดูแย่ลงไปอีก ร้อนถึง “เจ๊เกศรา” ผู้จัดการตลาดหุ้นต้องออกมาเบรกกระบวนการทางความคิดของ ก.ล.ต. แบบหัวทิ่มหัวตำกันเลยทีเดียว พร้อมกับให้ความเห็นว่า บล.เอสบีไอ หันมาใช้กลยุทธ์ปรับลดค่าคอมฯเหลือ 0.015% ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งนั้น มันเป็นเรื่องการแข่งขันมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ตลาดมีช่องทางให้นักลงทุนเลือกมากขึ้น เดี๊ยนถือว่า ได้ใจนักลงทุนรายย่อยไปเต็มๆ และขอปรบมือรัวๆ ให้เลยเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ ก.ล.ต. คงต้องอธิบายให้สังคมได้รับรู้ว่า ทำไมถึงปิดกั้นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนรายย่อย? หรือลืมไปแล้วเหรอว่า นี่เป็นการทำหมันพวกมนุษย์ทองคำไปในตัว และยังเป็นการฉีกหน้าพวกแย่งลูกค้า ซึ่งทำให้วงการโบรกเกอร์หันมาพัฒนาเรื่องคุณภาพมากขึ้น และยังเป็นการยกระดับมาร์เก็ตติ้งไปในตัว แถมในอนาคตจะเปิดเสรีทางด้านการเงินแบบเต็มตัว เท่ากับเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นไปในตัว..มันไม่ดีตรงไหนมิทราบ!
*หากคนในหน่วยงานสมองไม่ฝ่อไปเสียก่อน น่าจะพอจำกันได้บ้างว่า เลขาธิการคนก่อนอย่าง “เฮียธีระชัย” คือหนึ่งในผู้ที่พยายามผลักดันให้เปิดเสรีค่าคอมฯ แต่ตอนนั้นองค์ประกอบหลายอย่างยังไม่พร้อม จึงต้องยกเลิกกันไปตามระเบียบ ขณะที่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ทุกอย่างค่อนข้างเป็นใจให้พัฒนาไปอย่างช้าๆ “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเกาไม่ถูกที่คันสักทีล่ะจ๊ะ
*วกกลับมาที่บรรยากาศการลงทุนสักหน่อยดีกว่า เพราะแรงเทขายที่กดดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,418.38 จุด ลบไป 6.94 จุด ด้วยมูลค่า 4.55 หมื่นล้านบาท ล้วนเกิดจากน้ำมือกองทุนทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการย้ำให้เห็นว่า ผู้จัดการกองทุนเน้นเล่นรอบ เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไรให้เร็วขึ้น และวันนี้ก็คงได้เห็นการกลับเข้ามาซื้อรอบใหม่อีกครั้ง เชื่อเดี๊ยนไหมล่ะค่ะ
*สำหรับหุ้นดาวเด่นที่ยังคงเป็นเป้าหมายในการลงทุนเที่ยวนี้ ยังคงกระจุกตัวอยู่ที่หุ้นพิมพ์นิยมอย่าง SCI และMTLS ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกมั่นใจในหุ้น 2 ตัวนี้มากเป็นพิเศษ ล้วนเกิดจากพรายกระซิบพูดกรอกหูทุกวันว่า นี่คือหุ้นเติบโต แถมการขยับขึ้นเที่ยวนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะกลายเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่รู้จักแบ่งพอร์ตมาลงทุนก็เท่านั้นเอง..จริงเท็จอย่างไรใช้วิจารณญาณกันด้วยนะคะ