SABUY บวกแรง 9 % “ออลไทม์ไฮ” จับตา Q4 โตต่อเนื่อง-จ่อปิด 1 ดีลสิ้นปีนี้

SABUY บวกแรง 9 % “ออลไทม์ไฮ” จับตา Q4 โตต่อเนื่อง-จ่อปิด 1 ดีลสิ้นปีนี้ โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 23 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(2ธ.ค.64)บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ณ เวลา 10:32 น. อยู่ที่ระดับ 18.60 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 8.77% สูงสุดที่ระดับ 18.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 336.27 ล้านบาท ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 11 พ.ย.2563

โดยก่อนหน้านี้(24พ.ย.64)นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 674.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 56.1 ล้านบาท เนื่องจากมีการคลายล็อกดาวน์เปิดประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ และธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาความร่วมมือ, การร่วมลงทุน (JV) และการควบรวมหรือการซื้อกิจการ (M&A) หลายดีล คาดว่าจะได้ข้อสรุปอีกอย่างน้อย 1 ดีล ภายในสิ้นปี 2564

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 50% จากปี 2564 เนื่องจากในปี 2565 บริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำไรจากบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (ชิปป์สไมล์) และ บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP เข้ามาเต็มปี ประกอบกับในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้จากการเข้าลงทุนในบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด (PFS) ในสัดส่วน 50% ซึ่งได้สิทธิในการติดตั้งตู้ ATM จำนวน 10,000 ตู้ บริเวณหน้าร้าน 7-11 ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี และจะให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสผ่านตู้ ATM แทนการให้บริการด้วยพนักงาน รวมทั้งรายได้จากบริษัท สบาย แคปปิตอล พลัส จำกัด (SABUYCAP) บริษัทสินเชื่อในเครือ SABUY ซึ่งจะเริ่มให้บริการสินเชื่ออย่างเต็มรูปแบบภายในไตรมาส 1/2565

นอกจากนี้บริษัท สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (SABUY MAXI) บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยในเครือ SABUY ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับปี 2565 มากกว่า 200 ล้านบาท และปี 2566 เบี้ยประกันภัยรับเติบโต 20-30%

โดยล่าสุดบริษัทร่วมมือกับบริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ผู้บริหารแฟรนไชส์ซอร์ร้าน LAUNDRYBAR ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง อันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการช่วยกันขยาย LAUNDRYBAR และเติบโตร่วมกันไปได้อีกมาก ด้วยทรัพยากรและเครือข่ายที่กลุ่ม SABUY มีอยู่ในขณะนี้ เช่น กลุ่มร้านรับส่งพัสดุ shipsmile, Plus express, the Letter Post และ Point Express ที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ในเครือข่ายของกลุ่ม SABUY การจะนำเสนอธุรกิจร้านสะดวกซักเข้าไปเพิ่มเติมยังนับว่าเป็นโอกาสและช่องทางที่เป็นไปได้

นายชานนท โตวิกกัย กรรมการบริหาร บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่ม SABUY ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมขยายฐานการให้บริการ และพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ ผู้ลงทุน แฟรนไชส์และผู้ใช้บริการให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายที่จะแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้า องค์ความรู้และฐานข้อมูลร่วมกัน เพื่อขยายฐานการเปิดร้านให้บริการครอบคลุมทุกชุมชนทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายขยายให้ครบ 350 สาขา ภายในปี 2565 จากปัจจุบันมีครอบคลุมกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นร้านที่บริษัทลงทุนเอง 10-15% และร้านแฟรนไชส์ 80-85% รวมทั้งเปิดโอกาสให้ SABUY MAXI เข้าเป็นบริษัทรับประกันภัยร้าน LAUNDRYBAR ทั่วประเทศ

นายมารุต พรมมาลี กรรมการผู้จัดการ SABUY MAXI กล่าวว่า SABUY MAXI ได้จัดเตรียมออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย “สบายซัก” คุ้มครองร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ “ลอนดรี้บาร์” แบรนด์ร้านสะดวกซัก อบผ้าสมัยใหม่ โดยให้ความคุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกชนิด จากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร และการระเบิด รวมถึงการถูกโจรกรรม เกิดจลาจล และน้ำท่วม น้ำรั่วซึม ลมพายุ แผ่นดินไหว ฯลฯ คุ้มครองกรณีธุรกิจหยุดชะงักและขยายความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

โดยมีวงเงินในการทำประกันภัยสำหรับร้านสะดวกซัก LAUNDRYBAR แบ่งออกเป็น 2 แผน โดยแยกตามขนาดของร้านแฟรนไชส์ โดยแบ่งเป็น ทุนประกันภัย 5 ล้านบาท และ ทุนประกันภัย 8 ล้านบาท และจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 คาดว่าจะมีจำนวนสาขาร้านสะดวกซัก ลอนดรี้บาร์ เข้าร่วมทำประกันภัยโครงการนี้กว่า 200 สาขา

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไร SABUY ปี 2565 ขึ้น 55% เป็น 466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140% จากปีก่อน และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 16 บาท เป็น 23 บาท ซึ่งการเติบโตของกำไรจะถึงจุดที่คาดการณ์ไว้ได้จะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.การบริการ ATM/CDM หลัง SABUY ประกาศเข้าซื้อ Platt Finserve Co., Ltf. (PFS) ในสัดส่วน 50% โดย PFS จะรับรายได้จากการติดตั้ง และค่าธรรมเนียมการโอนที่ผูกกับบริการ CDM โดย BLS คาดว่ากำไรจะอยู่ราว 300 ล้านบาท ในปี 2565

2.การจับมือกับ FSMART และประกาศตั้งบริษัทร่วมทุนกับ FORTH โดยจะใช้ช่องทางการขาย และการตลาดของทั้ง 2 บริษัทในการโปรโมทธุรกิจของกันและกันรวมถึงการร่วมกันบริหารต้นทุน และตั้งราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อบริษัทปรับเพิ่มราคาของบางบริการ รายได้ส่วนเพิ่มจะโชว์อยู่ในผลลัพธ์ทางธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท และ BLS คาดว่าธุรกิจตู้หยอดเหรียญจะเทิร์นอะราวด์จากขาดทุน 50 ล้านบาท ในปี 2564 เป็นกำไรประมาณ 50-60 ล้านบาท ในปี 2565 และ 3.ขับเคลื่อนสู่ Fintech หลัง SABUY เปิดตัวระบบสินเชื่อสำหรับผู้ใช้งานที่อยู่ในระบบนิเวศของบริษัท เริ่มด้วยบริการ “เปลี่ยนตู้เป็นทุน” ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการตู้เติมเงินโดยใช้ตู้เติมเงินออนไลน์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดย BLS คาดว่าจะมียอดสินเชื่อคงค้างเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท ในปี 2565 และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10% รวมทั้งจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นอีกจากผลิตภัณฑ์ขายประกัน

ทั้งนี้ จาก 3 ปัจจัยข้างต้น จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ SABUY ประมาณ 370-500 ล้านบาท ซึ่งหากรายได้จากธุรกิจอื่นคงที่ ทั้ง 3 ปัจจัย จะช่วยให้กำไรสุทธิ SABUY เพิ่มขึ้นจาก 194 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 564-694 ล้านบาท ในปี 2565

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า Shipsmile มีแผนขยายร้านแฟรนไชส์อีก 2,000 สาขา ในไตรมาส 4/2564 คาดจะผลักดันให้กำไรของ SABUY งวดไตรมาส 4/2564 นิวไฮสูงเกิน 60 ล้านบาท บวกกับกำไรงวด 9 เดือน อยู่ที่ 137 ล้านบาท หนุนให้กำไรปี 2564 อยู่ที่ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบเท่าตัว

ส่วนปี 2565 รุกขยายเครือข่ายรับส่งพัสดุผ่านการซื้อกิจการ 2 บริษัท คือ Letter Post และ Point Express และเตรียมเปิดบริการตู้  ATM และบริการสินเชื่อ ทำให้ประเมินว่า กำไรของ SABUY ในปี 2565 จะเติบโต 90% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 381 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 30% ในปี 2566 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท

Back to top button