WFX เคาะราคา “ไอพีโอ” 7.20 บ. จองซื้อ 15-17 ธ.ค.64 ระดมทุนขยายรง.เสริมแกร่งธุรกิจ
WFX เคาะราคา IPO ที่ 7.20 บ./หุ้น โดยจะเปิดให้จองตั้งแต่ 9-13 , 15-17 ธ.ค. 64 เพื่อระดมทุนขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรกในช่วงปลายเดือนธ.ค. 64
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป(IPO) ของ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาขาย IPO ที่ 7.20 บาท/หุ้น โดยเป็นราคาเสนอขายที่มาจากการสำรวจราคาตามความต้องการซื้อกับนักลงทุนสถาบัน (Book Building) ในช่วงราคา 7.00-7.20 บาท/หุ้น ซึ่งนักลงทุนสถาบันแสดงความสนใจในราคาสูงสุดที่ 7.20 บาท/หุ้น ทำให้บริษัทเคาะราคา IPO ดังกล่าว
“ราคา IPO ดังกล่าว ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและมีการ Discount จากราคาเฉลี่ยที่โบรกฯให้ไว้ประมาณ 30% ซึ่งถือเป็นราคา IPO ที่จูงใจ และสอดคล้องของบริษัทที่จะเป็นหุ้น Growth และ Dividence stock” นายรัฐชัย กล่าว
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) จะเสนอขาย IPO ทั้งหมด 142 ล้านหุ้นหรือ 30.59% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TRUBB จำนวนไม่เกิน 11.36 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทไม่เกิน 14.20 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 18.46 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวนไม่น้อยกว่า 97.98 ล้านหุ้น
โดยจะจัดสรร IPO แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ การให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในวันที่ 9-13 ธ.ค. 64 และการเสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายและให้กับผู้มีอุปการคุณของบริษัท รวมถึงกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทในวันที่ 15-17 ธ.ค. 64 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรกในช่วงปลายเดือนธ.ค. 64 หรือก่อนวันคริสมาส
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด จำนวน 350 ล้านบาท การชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน 400 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 248.12 ล้านบาท