“บล.ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ WINMED วางเป้า 7.80 บ. จับตา 3 ปีกำไรโต 42%

“บล.ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ WINMED วางเป้า 7.80 บ. คาดกำไรไตรมาส 4/64 แตะ 59.60 ลบ. จับตา 3 ปีกำไรโตเฉลี่ย 42% รับประโยชน์เปิดเมือง หนุนธุรกิจเดิมฟื้นตัว และ New S-Curve


บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ธ.ค.2564) เกี่ยวกับหุ้นบริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED ว่า WINMED เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (11 พ.ค. 2564) ในช่วงที่ COVID-19 กำลังแพร่ระบาด และมีมาตรการคุมเข้มต่างๆ ทั้งเคอร์ฟิวส์และ Lockdown เป็นผลลบอย่างมากต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากรายได้หลักราว 60% มาจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโลหิต (Blood Banking และ Blood Safety) และอีกกว่า 30% มาจากผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสตรี

อย่างไรก็ดีด้วยการปรับตัวอย่างรวดเร็วของบริษัทด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในยุโควิด เช่น ชุดตรวจเชื้อโควิด ได้แก่ Biocredit Covid-19 Antigen และ Joysbio ประกอบกับการได้รับเงินปันผลจาก ProLab (WINMED ถือ 12.55%) จำนวน 11.3 ล้านบาทในไตรมาส 3/2564 ทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2564 ไม่ได้ต่ำกว่าที่บล.ฟินันเซีย ไซรัส เคยประเมินมากนัก

สำหรับกำไรจากการดำเนินงานหลักในไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นช่วงเปิดเมืองมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน แต่เนื่องจากไม่มีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมในไตรมาสนี้ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 จะลดลงราว 25-30% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2564 เป็น 59.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยที่ประมาณ 15% มาจากเงินปันผลรับจาก ProLab

นอกจากนั้นคาดว่ากำไรปี 2565-2566 จะเติบโตก้าวกระโดด 90.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 52.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของธุรกิจเดิมและ New S-Curve ได้แก่ 1) ห้องแล็บสำหรับตรวจเชื้อ COVID-19 แบบ RT-PCR และ TMA ที่เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 หลังได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นที่เรียบร้อย 2) แล็บตรวจครบวงจรเชื้อ HPV และ STD (โรคติดต่อทางเพศ) ซึ่งจะเริ่ม Soft launch ต้นเดือนธ.ค.2564 และ Official launch ไตรมาส 1/2565 และ 3) แล็บสำหรับการผลิตยา (Immunotherapy การรักษาโรคโดยอาศัยการทำงานของภูมิคุ้มกัน) คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมให้บริการในไตรมาส 3/2565 รวมถึงการสรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยังคงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 7.80 บาท อิง PE Multiple 27 เท่า Discount ราว 17% จากผู้ประกอบการในต่างประเทศ และคิดเป็น PEG 0.64 จากคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2567) ที่ 42% CAGR ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button