NOBLE เล็งออกหุ้นกู้ ขายผู้ลงทุนทั่วไป-สถาบัน ม.ค.นี้ ลุยขยาย-พัฒนาโครงการใหม่

NOBLE เล็งออกหุ้นกู้ใหม่ ขายผู้ลงทุนทั่วไป-สถาบัน ม.ค.นี้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี ลุยขยาย-พัฒนาโครงการใหม่ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนแนวราบ เผย “ทริสเรทติ้ง” ปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้จากเดิมที่ระดับ “BBB-“ มาที่ระดับ “BBB”


นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยทาง NOBLE เตรียมที่จะออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อขยายการลงทุนและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในแนวราบมากขึ้นรวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมทุน

ทั้งนี้หุ้นกู้ในครั้งนี้และบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้และหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ของบริษัทฯ ในปัจจุบันได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตจากเดิมที่ระดับ “BBB-” มาที่ระดับ “BBB” และคาดว่าจะเปิดจองซื้อและให้ผู้ลงทุนขอรับหนังสือชี้ชวนได้ภายในเดือนมกราคม 2565 นี้

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,792 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 936 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย (Pre-sales) สะสมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,525 ล้านบาท โดยกว่า 3,400 ล้านบาทมาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอีกกว่า 2,100 ล้านบาทมาจากยอดการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการคือ โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ และโครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา และโครงการนิว โนเบิล อื่นๆที่ทยอยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และมีรายได้ที่รอการรับรู้หรือ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3 จำนวน 10,085 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตลอด 3 ปีข้างหน้าจะช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้ของ บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการฟื้นตัวของตลาด ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 47,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในพอร์ตให้มากขึ้น เพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้ากระจายและรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ครอบคลุมในหลายทำเลมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงการในแนวราบจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นเนื่องจากใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยลง โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบในพอร์ตเกือบ 50% (ตามสัดส่วนการลงทุนของ NOBLE)

โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการในทำเลที่กระจายตัวมากขึ้น เช่น ในทำเลถนนดอนเมือง ถนนราชพฤกษ์ ถนนเอกมัย-รามอินทรา ถนนกรุงเทพกรีฑา และในทำเลที่ใกล้เมกาบางนา เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ หากบริษัทกำหนดรายละเอียดที่แน่นอนแล้วจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบอีกครั้ง

สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นกู้ของ NOBLE สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.sec.or.th หรือ https://investor.noblehome.com และสามารถติดต่อสถาบันการเงินได้ดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด โทร. 02-695-5000

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-251-9955 ต่อ 1415

Back to top button