ย่ำเพื่อขึ้น?โมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้ “โมนิก้า” ขอตั้งโจทย์กับนักลงทุนรายย่อยกลับไปว่า ทำไมถึงกล้าซื้อหุ้น! ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า กองทุนพร้อมจะหักลำตลอดเวลา และพฤติกรรมดังกล่าวก็เป็นจริงอย่างที่ตั้งข้อสังเกต หลังกองทุนมียอดขายสุทธิโผล่ออกมามากถึง 1 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็ฉวยโอกาสเทขายหุ้นออกมา 200 ล้านบาทเหมือนกัน แต่ยังดีที่ปอบผีฟ้า กับแมงเม่าช่วยกันรับหุ้นตลอดทั้งวัน จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเจ้าค่ะ
*วันนี้ “โมนิก้า” ขอตั้งโจทย์กับนักลงทุนรายย่อยกลับไปว่า ทำไมถึงกล้าซื้อหุ้น! ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า กองทุนพร้อมจะหักลำตลอดเวลา และพฤติกรรมดังกล่าวก็เป็นจริงอย่างที่ตั้งข้อสังเกต หลังกองทุนมียอดขายสุทธิโผล่ออกมามากถึง 1 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็ฉวยโอกาสเทขายหุ้นออกมา 200 ล้านบาทเหมือนกัน แต่ยังดีที่ปอบผีฟ้า กับแมงเม่าช่วยกันรับหุ้นตลอดทั้งวัน จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเจ้าค่ะ
*สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากสุดในเที่ยวนี้คือ มูลค่าการซื้อขายที่ผลุบๆ โผล่ๆ ในบางวัน คือสัญญาณที่บอกให้นักเล่นรู้ว่า ไม่มีใครอยากจะลงทุนอย่างจริงๆ จังๆ จึงเข้ามาลงทุนเฉพาะในจังหวะที่ดัชนีดีดตัวขึ้นแรงๆ หลังจากนั้นจะออกไปดูเชิงอยู่ข้างนอก เพื่อรอเวลากลับเข้ามาเล่นรอบใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และวานนี้ก็เป็นอีกครั้งที่นักเล่นได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวนะจ๊ะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนีกระชากขึ้นไปที่ 1,426.81 จุด หลังจากนั้นแกว่งตัวไปมาก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,416.91 จุด ลบไป 1.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 หมื่นล้านบาท โดยเป็นบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซาในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งในตอนนั้นมีมูลค่าการซื้อขายแค่ 2.35 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถึงต้องมานั่งร้อยเรียงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบอีกครั้งว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คืออะไร?
*โดยข้อมูลที่พบในเที่ยวนี้คือ หากมูลค่าการซื้อขายไม่ลดฮวบฮาบลงไปมากกว่านี้ และดัชนียังทรงตัวอยู่บนเส้นแนวรับค่าเฉลี่ย 5 วันที่ระดับ 1,413 จุดได้อย่างมั่นคง การเคลื่อนตัวของดัชนีจะค่อนไปในทาง “ย่ำเพื่อขึ้น” หรือถ้ามองในมุมร้ายขึ้นมาอีกนิดหนึ่งคือ ดัชนีอ่อนตัวหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาอย่างง่ายดาย แต่ยังยืนปักหลักเหนือเส้นแนวรับค่าเฉลี่ย 10 วันที่ระดับ 1,400 จุดได้อย่างเหนียวแน่น การเคลื่อนตัวของดัชนีก็จะเป็นลักษณะ “ลงเพื่อขึ้น” นะจะบอกให้
*งานนี้จะมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล “โมนิก้า” มีหน้าที่เรียบเรียงข้อมูลที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้แฟนคลับมองภาพการเล่นเที่ยวนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ขณะที่ความคิดเห็นส่วนตัวของเดี๊ยนอยากให้ออกไปในทาง “ย่ำเพื่อขึ้น” มากกว่าประเด็นอื่นๆ เพราะทรงก็ไม่เสีย กำลังใจก็ยังดีอยู่ จึงมีโอกาสจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ TIPCO กับ TASCO วันนี้ไม่สนใจชาวบ้านชาวช่องจะเป็นอย่างไร เพราะรู้อย่างเดียวว่า กำไรโตแน่นอน ถึงขนาดพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังเป็นตุเป็นตะว่า ไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาส 1 อย่างไร..ไตรมาส 3 ก็ดีกว่าไตรมาส 2 อย่างนั้น วานนี้ถึงเป็นอีกวันที่เห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 23 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 8% ขณะที่รายหลังปิดที่ 39 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ล้วนเป็นข้อมูลที่นักเล่นต้องกลับไปทบทวนดูกันเอาเองอีกทีหนึ่งนะคะ
*ส่วนในรายของ ORI หลังจากเดินเกมโหดชนิดที่แมงเม่าได้แต่อ้าปากค้างไปแล้ว วันนี้ก็ถึงเวลาดันหุ้นเพื่อสร้างแวลูกันอย่างสุดตัว “โมนิก้า” อยากเม้าท์ให้แฟนคลับฟังว่า “เหตุผลในทางลับ” กับ “เหตุผลในทางแจ้ง” มันให้ผลที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4% มันเป็นจังหวะของนักผจญภัยที่ต้องเลือกกันเองว่า กล้าลุยไฟไหม?
*ผิดกับในรายของ EA ซึ่งถูกบัญชาเกมรบด้วย “น้องอมร” มันเป็นสตอรี่ที่จับต้องได้ และที่ผ่านมาก็ทำตามสัญญาทุกครั้ง “โมนิก้า” ถึงชอบเม้าท์ถึงเป็นประจำเมื่อสบโอกาส ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 185 ล้านบาท มันเป็นการเด้งรับกำไรไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ไตรมาส 4 ก็จะโตขึ้นไปอีก..เชื่อเดี๊ยนไหมล่ะ!
*เช่นเดียวกับในราย LIT ตัวนี้กลายเป็นดาวเด่นเมื่อวันสัมมนาที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของกำไรอยู่ในลู่ทางที่สดใส “โมนิก้า” ไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนถาม จึงขอชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกันว่า ธุรกิจกำลังรุ่ง เฮียสมพลกำลังจะดัง ห้ามอย่างไร ก็ห้ามไม่อยู่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.80 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 173 ล้านบาท พร้อมกับพยายามจะวิ่งทะลุ 8 บาทเพื่อขึ้นไปยืนเหนือ 10 บาทแบบนี้..น่าตามไปดูนะเนี่ย
*ส่วนในรายของ EFORL เป็นอะไรที่ดูยากมากๆ เพราะธุรกิจที่เพิ่งซื้อมาหยกๆ ก็จะขายออกไปเสียแล้ว แถมไซเคิลในรอบหนึ่งปีเต็มๆ ออกไปในทาง sideway down เสียเป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ถึงไม่แน่ใจการถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 1.17 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 265 ล้านบาท กำลังอยู่ในรูป v-shape หรือ w-shape พะยะค่ะ
*คงต้องบอกให้ผู้เล่นรับทราบกันโดยทั่วไปว่า นี่คือเคราะห์หามยามซวยของ BAY จริงๆ แล้วกระมั้ง! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาหุ้นที่ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ไม่มีอะไรในกอไผ่ ล่าสุดก็มาโดนคนในโลกออนไลน์กดดันองค์กรอย่างหนักหน่วง หลังจากปรากกฏภาพเมียนายพลซึ่งเป็นพนักงานระดับสูงขององค์กรไปทะเลาะวิวาทกับคนท้อง สังคมเลยรุมประณามกันอย่างหนักหน่วง จนกลายเป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มอยก็เท่านั้นเอง