TVI พุ่งกระฉูด 17% “ออลไทม์ไฮ” จับตากำไรปีนี้นิวไฮ-ปักธง 3 ปี รายได้แตะ 1 หมื่นล.

TVI พุ่งกระฉูด 17% “ออลไทม์ไฮ” จับตากำไรปีนี้นิวไฮ-ปักธง 3 ปี (ปี 65-67) รายได้แตะ 1 หมื่นล. รับเศรษฐกิจฟื้น-การให้ความสำคัญด้านสุขภาพของผู้บริโภคช่วงโควิดระบาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 ธ.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ณ เวลา 11.24 น. อยู่ที่ระดับ 19.60 บาท บวก 2.90 บาท หรือ 17.37 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 75.15 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2535

โดยก่อนหน้านี้(1ธ.ค.64)นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TVI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้แตะระดับ 10,000 ล้านบาท ในทิศทางเดียวกับเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตทะลุ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (ปี 2565-2567) จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่กว่า 6,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ รวมไปถึงเป็นการลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีกว่าเดิม ภายใต้การยึดหลักแนวคิด “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” ในทุก ๆ สถานการณ์ มองว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปสู่ยุค New Normal ส่งผลให้การคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ คือสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนายกระดับการประกันภัย ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค

ด้านผลกระทบที่เกิดจากประกัน เจอ จ่าย จบ มองว่าจะเป็นผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันภัยไม่มากนัก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความเข้าใจมากขึ้น และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด และภายในเดือน มิ.ย. 2565 กรมธรรม์ดังกล่าวก็จะหมด ครบอายุทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนว่าจะมีการกลับมาแพร่ระบาดหนักอีกครั้งหรือไม่

นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ TVI กล่าวว่า สำหรับก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8 ประกันภัยไทยวิวัฒน์มุ่งสร้างประสบการณ์ประกันภัยแห่งอนาคต ด้วยการนำ Insur Tech มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ยกระดับบริการเติมเต็มวิถีชีวิตในแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น เดินหน้าพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ และประเภทความคุ้มครอง ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้มีความหลากหลาย เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก ฯลฯ พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งรายเก่าและรายใหม่ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เติมเต็มทุกช่วงจังหวะการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

ด้านภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิเติบโตกว่า 50 เท่า จากช่วงเดียวกันปีก่อนแตะ 437 ล้านบาท มีรายได้สุทธิ 4,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากการรักษาโมเมนตัมงานรับประกันภัยได้ดีต่อเนื่อง หนุนเบี้ยประกันภัยรับแตะ 4,450 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นผลจากการเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการให้บริการ ตอบโจทย์ความต้องการผู้เอาประกันภัยในทุกมิติได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์เปิดปิดที่กระแสตอบรับดีเกินคาด ยอดขายเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเชิงรุกผ่านช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง อาทิ ช่องทางออนไลน์ และสื่อสมัยใหม่ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน บริษัทเน้นใช้ Big Data รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพงานบริการ และระบบคัดกรองความเสี่ยงให้มีความแม่นยำดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 3,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเติบโตของรายได้รวม กด Loss Ratio ลดลง ทำให้มีกำไรจากการรับประกันภัยสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 385 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 2.2 เท่า เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้จากการลงทุนพลิกมีกำไร 140 ล้านบาท คาดผลงานปีนี้ทำนิวไฮ

Back to top button