ORI วิ่ง 3% โบรกฯชูเป้า 15 บ. ชี้กำไรปี 65 “นิวไฮ” รับรายได้อสังหาฯ-กัญชงหนุน

ORI วิ่ง 3% โบรกฯ ชี้ปี 65 กำไร “นิวไฮ” รับรายได้อสังหาฯ-กัญชงหนุน ซึ่งกัญชงจะช่วยเสริมกำไรได้ดีในระยะยาว แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (16 ธ.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ณ เวลา 10:23 น. อยู่ที่ระดับ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.61% โดยทำจุดสูงสุดที่ 12.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 11.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.81 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ธ.ค. 2564) ว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการแถลงแผนลงทุนใน บจ.ไทย ลีฟ ไบโอ เทคโนโลยี (Thai Leaf) โดยมีประเด็นสำคัญได้แก่ (1) ORI ได้เข้าถือหุ้น 25% (รับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร) ใน Thai Leaf ซึ่งประกอบธุรกิจกัญชงครบวงจรตั้งแต่นำเข้าเมล็ดพันธุ์ ปลูก สกัด จำหน่าย CBD และแปรรูป CBD สำหรับเครื่องดื่ม อาหารเสริม skin care รวมถึงผลิตภัณฑ์ Pharmaceutical ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2565

รวมทั้ง (2) วางแผนพื้นที่ปลูกในช่วงแรกที่ 125 ไร่ และเพิ่มเป็น 300 ไร่ ภายใน 5 ปีข้างหน้า อีกทั้ง (3) ORI ประเมินปี 2565 จะมีรายได้ 750 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 2,150 ล้านบาทในปี 2569 โดยจะมี NPM ราว 40% – 50% และ (4) Thai Leaf ยังมีจุดเด่นจากการมีพันธมิตรเป็น Cornell University จากสหรัฐ ในการเป็นที่ปรึกษาให้ความช่วยเหลือวิจัย และพัฒนาสายพันธุ์กัญชงที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้บริษัท จาก Assumption ดังกล่าว

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยประเมิน ORI จะรับรู้กำไรจาก Thai Leaf ในปี 2565 ราว 75 ล้านบาท คิดเป็น 2% ของกำไร และจะเพิ่มเป็น 5% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่จะช่วยเสริมกำไรได้ดี นอกจากนั้นยังมี Synergy กับ ธุรกิจ Healthcare เช่น การดูแลสุขภาพการนอน และเป็นส่วนผสมเวชสำอางค์ในธุรกิจความงาม เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ ORI ในระยะยาว

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยจะรวมผลบวกจาก Thai Leaf ในประมาณการหลังจากมีการรับรู้รายได้ที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนราคาหุ้น outperform SET เพิ่มขึ้น 11% ใน 3 เดือน จาก ธปท.ประกาศผ่อน เกณฑ์ LTV และแผนธุรกิจใหม่มีความคืบหน้ามากขึ้น

อนึ่งทางฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 15.00 บาท อิงปี 2565 ค่า PER ที่ 10 เท่า จากกำไรไตรมาส 4/2564 ที่ดีขึ้น และปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้จากทั้งธุรกิจหลักอสังหาฯ ที่จะมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น และยังมี Upside เพิ่มจากธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Recurring income ที่จะมีความชัดเจนในการรับรู้รายได้มากขึ้น ด้าน valuation ยังน่าสนใจ เทรดที่ปี 2565 ค่า PER ที่ 8.00 เท่า

Back to top button