ATP30 บวก 6% “ออลไทม์ไฮ” โบรกเชียร์ซื้อเป้า 3.24 บาท มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 480 ลบ.
ATP30 บวก 6% “ออลไทม์ไฮ” โบรกเชียร์ซื้อเป้า 3.24 บาท มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 480 ลบ. โดย ณ เวลา 10:52 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.32 บาท บวก 0.14 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17ธ.ค.64) ราคาหุ้น บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ณ เวลา 10:52 น. อยู่ที่ระดับ 2.32 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 6.42% สูงสุดที่ระดับ 2.42 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92.70 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2558
บล.เมย์แบงก์ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17 ธ.ค.2564) ว่า ATP30 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.24 บาท การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอก 3 กดดันให้กำไรครึ่งแรกปี 2564 ผิดหวัง หดตัวถึง 43.2% เทียบ HoH โดยไตรมาส 2/2564 ทำได้เพียง 1 ลบ. อย่างไรก็ดีสิ่งดีๆก็ทยอยเกิดขึ้น เช่น (1) มี.ค. บจก.โตโยตาทูโช ไทย โฮลดิ้งส์ เข้ามาซื้อหุ้น PP และถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ที่ 9.5% จากความชื่นชอบในโมเดลธุรกิจ จากนั้นได้เริ่มแนะนำลูกค้าใหม่ต่างชาติมาให้บริษัท,(2) ก.ค. ลูกค้าญี่ปุ่นรายใหม่ Mitsubishi Electric Auto Parts ทำสัญญาว่าจ้าง 70 คัน ดันให้ fleet รถเพิ่ม 18% ซึ่งเป็นสัญญาฉบับเดียวที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทเคยมี
(3) ส.ค.-ต.ค. ATP30 จับมือกับ ARUN+ (บริษัทย่อยของ PTT) ร่วมให้บริการในระบบนิเวศน์ EV ในกลุ่มงาน EVme+ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้าให้ประชาชน,(4) ธ.ค. ATP30 ต่อสัญญาลูกค้าเดิม 1 ราย และทยอยให้บริการลูกค้าใหม่ 2 ราย จากกลุ่ม ปตท. ได้แก่ PTTGC 22 คัน และ GPSC 45 คน ดันให้ fleet รถเพิ่มขึ้น 50% เป็น 523 คัน ภายในเวลา 6 เดือน และ (5) ในช่วงแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดของไทย ATP30 รายงานกำไรสุทธิไตรมาส3/2564 ที่ 12.5 ล้านบาทฟื้นตัวแรงโต 734.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต 25.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
ทั้งนี้ย้อนในปี 2558 ATP30 บริหารรถอยู่ 239 คัน ผู้บริหารได้เปิดเผยว่า ข้อจำกัดของบริษัทคือ การบริหารรถ 500 คัน เพราะต้องดูแลรถ, การจัดการเส้นทาง น้ำมันที่ซับซ้อน และที่สำคัญ ที่สุดคือการบริหารพนักงานขับกว่า 500 คนให้มีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน ทว่าวันนี้ ATP30 ได้ บริหารรถกว่า 523 คัน และตั้งเป้าเพิ่มอีก 25% หรือ 130 คันในปีหน้า ผู้บริหารได้เผยสิ่งที่ เปลี่ยนไปจากวันนั้น คือ ATP30 ได้สร้างทีมบุคคลากรในการขับเคลื่อนบริษัทได้แล้วแทนที่จะพึ่งเพียงผู้บริหารสูงสุดเท่านั้น ตัวอย่างหนึ่งที่ดีคือ การคัดสรรพนักงานขับ กว่า 100 คน ได้ภายเวลาอันสั้นก่อนให้บริการลูกค้าใหม่ในไตรมาส 4/2564 นี้ มาถึงตอนนี้เชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะเดินหน้าไปอีกก้าวใหญ่ๆแล้วคาดกำไรปี 2556 จะเติบโต 100.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยก่อนหน้านี้(22พ.ย.64)นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตตามแผนที่วางไว้ประมาณ 480 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 15-20% จากปีก่อน เนื่องจากมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังคงรักษามาตรฐานการดำเนินงาน โดยมุ่งที่การบริหารจัดการเดินรถ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่าย ส่วนปีหน้าตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 20-25% จากปีก่อน โดยจะมาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในการให้บริการรถรับส่งพนักงานรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวน 54 ราย มีรถให้บริการไม่รวมรถร่วมจำนวนทั้งสิ้น 446 คัน และอยู่ระหว่างจัดเตรียมรถให้บริการเพิ่ม 77 คัน รวมเป็นจำนวน 523 คัน รวมถึงธุรกิจใหม่บริหารจัดการการเดินรถยนต์ไฟฟ้าให้แก่ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EV ME PLUS) และบริษัท อรุณ พลัส จำกัด
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้งานให้บริการรับส่งพนักงานบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยรถตู้ปรับอากาศ จำนวน 22 คัน จะเริ่มให้บริการวันที่ 1 ธ.ค. 2564 และบริษัทยังได้งานให้บริการรับส่งพนักงานให้กับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ใน จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี โดยรถตู้ปรับอากาศ 45 คัน จะเริ่มให้บริการวันที่ 1 ม.ค. 2565
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมตัวกลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวให้แก่บริษัท อาร์พี ทรานสปอร์ตเทชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP ในวันที่ 5 ธ.ค. 2564 หลังจากที่มีการหยุดให้บริการไปในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสถานการณ์ท่องเที่ยวในอำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ภายหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศแบบมีเงื่อนไข ทำให้บรรยากาศการเดินทางทั้งทางอากาศและทางเรือเฟอร์รี่คึกคักมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 บริษัทมีรายได้รวม 135.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 96.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 355.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 287.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.47% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.95 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุน รวมถึงยังสามารถรับรู้รายได้เพิ่มจากการให้บริการรถจำนวนมากขึ้น