MENA พุ่ง 6% ลุ้น Q4 ดีมานด์ขนส่งแกร่ง-ขยายกองรถเพิ่ม 40 คันปี 65 เสริมรายได้มั่นคง
MENA บวก 6% ลุ้นไตรมาส 4 ดีมานด์ขนส่งแกร่ง-ขยายฐานลูกค้า ปี 65 ไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ สอดรับแผนขยายรถเพิ่มเติมอีกกว่า 40 คัน ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในปี 65 คาดเสริมฐานรายได้ที่มั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 ธ.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ณ เวลา 12:30 น. อยู่ที่ระดับ 1.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท หรือ 5.98% โดยทำจุดสูงสุดที่ 1.96 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 1.85 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62.21 ล้านบาท
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2564 ว่า เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศไทยเริ่มกลับมาเดินหน้า มีการเปิดประเทศ และงานโครงการก่อสร้างเร่งส่งมอบตามแผน รวมไปถึงการเปิดประมูลงานเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่หลายโครงการของภาครัฐ ส่งผลให้มีความต้องการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์และงานขนส่งด้วยรถเทรลเลอร์เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขยายโอกาสไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ในการให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเฉพาะทาง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตที่ดีเพื่อสนับสนุนฐานรายได้ที่มั่นคง ฟุ้งมีแผนขยาย Fleet รถเพิ่มเติมอีกกว่า 40 คัน ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในปี 2565 นี้
สำหรับจากภาพรวมอุตสาหกรรมขนส่งที่ฟื้นตัว และการเดินหน้างานโครงการขนาดใหญ่ในหลายโครงการ ซึ่งจะสนับสนุนทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ปิดไซต์งานก่อสร้างเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ส่งผลต่อความต้องการใช้คอนกรีตผสมเสร็จในเขตกรุงเทพและปริมณฑลอย่างเป็นสาระสำคัญ และมีมาร์เก็ตแชร์ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 8.40% รวมทั้งส่งผลกระทบไปถึงการขนส่งปูนซีเมนต์ผงและขี้เถ้าลอย ไปยังพื้นที่ที่ถูกล็อกดาวน์ ทำให้รอบเที่ยวงานของรถเทรลเลอร์ปรับลดลงเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรก และกระทบภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ทำให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2564 มีรายได้รวม 411.84 ล้านบาท กําไรสุทธิ 20.03 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างรายได้ในงวดไตรมาส 3/2564 มาจากธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ 71% รถเทรลเลอร์ 24% และรายได้จากการขาย 5% แต่กำไรขั้นต้นมาจากธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์สูงถึง 85% รถเทรลเลอร์ 14% และรายได้จากการขาย 1%
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกองยานรถมิกเซอร์ภายใต้การบริหารรวมจำนวน 471 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามายาวนาน และมีแผนจะขยายกองยานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทฯ มีการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในไตรมาส 3/2564 โดยได้จ่ายคืนหนี้ระยะสั้นจำนวน 20 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 40 ล้านบาท
ด้านการลงทุนขยายรถขนส่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ปิดเมือง คู่ค้าที่ MENA เข้าไปประมูลงานรถขนส่งได้ชะลอการเจรจาจึงยังไม่มีการขยาย Fleet ในไตรมาส 3 แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น MENA ก็ได้เริ่มลงทุนขยาย Fleet รถขนส่งในไตรมาส 4 ปีนี้ รวม 18 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 3 คัน และรถบรรทุก 4 ล้อ (Jumbo) จำนวน 5 คัน ซึ่งเป็นการขยาย Fleet ขนส่งในธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจก่อสร้าง โดยจะเริ่มให้บริการขนส่งในเดือนธันวาคมนี้
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ลงทุนในรถ 10 ล้อควบคุมอุณหภูมิจำนวน 10 คัน โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการขนส่งได้ในไตรมาส 1/2565 มูลค่าการลงทุนสำหรับทั้งสองโครงการเป็นจำนวน 52.50 ล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินจาก IPO จำนวน 32.90 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถขยาย Fleet รถได้มากขึ้นรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ดีในปี 2565 บริษัทฯ อยู่ระหว่างขยายรถขนส่งเพิ่มเติมอีก ซึ่งปัจจุบันมีแผนการลงทุนที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น รถขนส่งสินค้าเฉพาะทาง 17 คัน, รถ 10 ล้อควบคุมอุณหภูมิ 4 คัน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 62 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มี Fleet รถขยายเพิ่มใหม่รวมกว่า 40 คัน
“ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารงานภายในอย่างรัดกุม รวมถึงการปรับลดต้นทุนต่างๆ เพื่อให้ผลการดำเนินงานออกมาอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้ง MENA ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานโครงสร้างพื้นฐาน รถมิกเซอร์จึงเป็นพาหนะสำคัญในการขนส่งเพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งลูกค้าหลักของบริษัทฯ เป็นกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ และเราไม่หยุดอยู่ที่อุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ธุรกิจขนส่งเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ จึงขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส ในปี 2565 น่าจะได้เห็นการขยาย Fleet รถใหม่ๆ อีกจำนวนมาก เพื่อรับตลาดนี้” นางสุวรรณา กล่าว