THAI เร่งเดินหน้าแผนปฏิรูป หลังการเพิ่มรายได้-ลดต้นทุนยังไม่เป็นไปตามเป้า
THAI เร่งเดินหน้าแผนปฏิรูป หลังการเพิ่มรายได้-ลดต้นทุนยังไม่เป็นไปตามเป้า
นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล อนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เปิดเผยว่าภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฎิรูปการบินไทย ซึ่งถือว่าการปฎิบัติยังน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทฯยังวิกฤติ
เนื่องจากแผนปฎิรูปที่การบินไทยได้นำเสนอไว้แม้จะยังไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่มีความตั้งใจและเป็นแผนที่ดีระดับหนึ่ง แต่เมื่อดำเนินการไปถึงไตรมาส 3/58 พบว่า มีหลายเรื่องที่ตัวเลขไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเป็นเรื่องการปฎิบัติไม่ได้ตามแผน ซึ่ง คนร.แนะนำบอร์ดการบินไทยไปว่าจะต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมงานเพื่อให้เร่งดำเนินการให้ดีขึ้น เพราะหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทจะไปไม่รอด
ประเด็นหลักคือ การลดค่าใช้จ่ายเป้าตั้งไว้ 10% หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ทำได้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น เรื่องนี้ต้องเร่งปรับ ซึ่งทางบอร์ดและทีมบริหารน่าจะทราบปัญหา ส่วนรายได้ พบว่า Ratio การดำเนินงานต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย ขณะที่งานบางอย่างดีขึ้น เช่น การขนส่งสินค้า (Cargo) พลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร ถือว่าทำได้ดีหากมีทีมที่ช่วยกันน่าจะมีโอกาส เพราะการบินไทยยังมีศักยภาพอยู่
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า แผนปฎิรูปคืบหน้าระดับหนึ่ง แต่การเพิ่มรายได้ฝ่ายพาณิชย์ยังทำไม่ได้ตามเป้า ส่วนการลดต้นทุนก็ยังทำได้ช้าเช่นกัน ซึ่งจากนี้จะเน้นใน 2 เรื่องนี้เป็นหลัก คือ เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้ได้ตามเป้า การบริหารจัดการต้องเข้มข้นขึ้นทุกระดับ ทีมใหญ่จะมาเจาะที่ 2 เรื่องนี้ ตามแผนปฎิรูปกำหนดระยะเวลาไว้ 18 เดือน ต่อจากนี้จะเร่งให้มากขึ้น การทำงานทุกเดือนต้องเร็วและได้ผลซึ่งยังพอมีเวลา
โดยการเพิ่มรายได้จะมีการปรับปรุงโดยขยายรายได้จากส่วนที่ไม่เคยขายมาก่อน เช่น ขาย Network คือ ขายผ่านประเทศไทย ขายลูกค้าที่ไม่ได้มีปลายทางของเดินทางที่ประเทศไทย ซึ่งจากการประเมินหากทำได้สามารถจะเพิ่มยอดขายอีกหลายเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นฝ่ายพาณิชย์ทั่วโลกจะต้องมองการขายในหลายรูปแบบให้มากขึ้นไม่ใช่มองเฉพาะจุดที่ตัวเองอยู่เท่านั้น
สำหรับในปี 59 เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) ซึ่งยอดจองตั๋วล่วงหน้าดีอยู่ ขณะที่ราคาน้ำมันจะเริ่มส่งผลต่อผลประกอบการมากขึ้น เพราะต้นทุนลดลง ถือว่า “Not a bad new”