สายเขียวเตรียมคัมแบ็ค

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องทำตัวให้กระฉับกระเฉงมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ล้วนบีบรัดการขยับตัวของภาคธุรกิจต่าง ๆ ผนวกกับผลกระทบที่จะเกิดจากเจ้าโอมิครอนจะมากน้อยเพียงใดก็ไม่มีใครรู้ จึงต้องมองภาพการลงทุนไปยังปีหน้าเป็นหลัก และเที่ยวนี้ก็มีหุ้นหลายกลุ่มที่กำลังขึ้นมาเป็นดาวเด่นเยอะแยะไปหมด แต่เดี๊ยนจะขอเม้าท์เฉพาะหุ้นสายเขียวที่หลายคนมองว่า ไตรมาส 1 ปังแน่ ๆ พะยะค่ะ

*เนื่องจากหุ้นกลุ่มอื่นได้ย้ำหัวหมุดไปเยอะพอสมควร และที่ผ่านมาก็พยายามชี้ให้เห็นหุ้นที่เดินมาถึงทางตัน และต้องปรับโพซิชั่นทางธุรกิจอีกระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นถึงจะเห็นผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวังขนาดไหน? ซึ่งสอดคล้องกับกูรูตลาดหุ้นหลายรายที่ฟันธงว่า ปีหน้ากำไรต่อหุ้นของทั้งตลาดจะโต 20-25% ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ดัชนีทะยานขึ้นไปสร้างฐานแนวรับที่มั่นคงบริเวณ 1,700 จุดแบบนี้..ไม่ทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตได้ไงล่ะจ๊ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,626.79 จุด บวกไป 4.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.09 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นบันไดที่จะทำให้ดัชนีเดินหน้าแบบสวย ๆ ผสานกับช่วงสิ้นปีเป็นจังหวะของการเก็บหุ้นเพื่อขายทำกำไรในปีหน้า “โมนิก้า” จึงขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นสายเขียวมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น เพราะเดือนหน้าจะเป็นเวลาของการเก็บเกี่ยวกัญชงล็อตแรก เพื่อนำไปผลิตสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ ออกสู่ตลาดไงล่ะคะ

*โดยเฉพาะพระเอกสายเขียว RBF ก็ยืนหนึ่งในตลาดแห่งนี้อย่างสมราคา “โมนิก้า” จึงมองการวิ่งของหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 23.10 บาท บวกไป 2.30 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 966 ล้านบาท ก็เป็นการไล่ราคาก่อนข่าวจริงจะปรากฏ เดี๊ยนจึงขอเดาต่อไปว่า ไตรมาส 1 ปี 65 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกำไรอย่างมีนัยสำคัญ และเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับราคาหุ้นในกระดานเต็ม ๆ นะจะบอกให้

*รายถัดมาที่ต้องเอ่ยถึงคงมองไปยังน้องดูดี DOD ซึ่งคว้าไลเซนส์สกัดกัญชงเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมที่จะส่งสินค้านำร่องออกสู่ตลาดเกือบ 20 SKU ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า “โมนิก้า” เลยตีความทันทีว่า หากสินค้าที่ส่งออกไปสู่ตลาดโดนใจ ก็หมายความว่า รายได้จำนวนมากจะไหลเข้าสู่บริษัทแบบเห็นน้ำเห็นเนื้อ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการย่ำฐานที่บริเวณ 11 บาทเป็นเวลานาน จนวานนี้ยืนปิดที่ 11.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12 ล้านบาท โดยยอดเก่าที่ทำไว้อยู่แถว 15 บาท..น่าสนใจอ๊ะป่าว

*อีกรายที่ต่อยอดธุรกิจด้วยสายเขียว “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น GUNKUL ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำทุกอย่างที่ทำเงิน ก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตาเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่ของโซลาร์ฟาร์มที่เอามาปลูกกัญชงเป็นจำนวนมาก มันคือเม็ดเงินที่ไหลเข้าบริษัทอย่างเป็นล่ำเป็นสัน (นี่ยังไม่นับรวมการร่วมลงทุนด้านอื่น ๆ) เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินอีกเช่นกันว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 5.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 762 ล้านบาท เหมาะต่อการซื้อเก็บขนาดไหน?

*ส่วนคนที่ขายของเก่งอย่าง RS กลายเป็นหุ้นที่เดี๊ยนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าดูความหลากหลายของการนำเสนอสินค้า และยังมียุทธวิธีปิดการขายที่โดนใจ “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์สายเขียวจะเป็นหนึ่งในสินค้าฮอตฮิตที่ “เฮียฮ้อ” นั่งนับเงินแบบชิว ๆ (ถ้าติดลมบนแล้วยาวแน่นอน) จึงต้องถามนักเล่นว่า การยืนนิ่ง ๆ ที่บริเวณ 19.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท ท่ามกลางยอดเก่า 26 บาท น่าเล่นไหมเจ้าค่ะ

*สำหรับรายที่ลอนช์สินค้าออกไปแล้วอย่าง XO ว่ากันว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี และน่าจะต่อยอดจากผลิตภัณฑ์สายเขียวได้สบาย ๆ เพราะซอสสูตรดั้งเดิมก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่แล้ว ผนวกกับการแก้ปัญหาตู้สินค้าก็ดีขึ้นเป็นลำดับ “โมนิก้า” ถึงมองว่า การที่หุ้นเพิ่งขยับขึ้นแรงอีกครั้ง ก่อนจะมายืนปิดที่ระดับ 19.90 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท มันคือจังหวะของการ follow นะตัวเอง

*รายสุดท้ายที่ต้องลุ้นว่า กัญชงจะช่วยพลิกให้บริษัทกลับมีกำไรได้ไหม? “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น FN เป็นตัวเลือกสุดท้ายสำหรับการเม้าท์แตกในวันนี้ และเหตุผลที่ต้องเอ่ยถึงเพราะร่วมมือกับบริษัทข้างต้นที่ชื่อ “ดีโอดี” ในการทำสกินแคร์ ผนวกกับวานนี้หุ้นขึ้นเบา ๆ ด้วยการปิดที่ระดับ 2.22 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.50 ล้านบาท จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องประเมินความเสี่ยงกันเอาเองไงล่ะคะ