SET สัปดาห์นี้ “ผันผวน” เผชิญความเสี่ยงโควิดระบาดระลอกใหม่-ไถ่ถอน LTF

SET สัปดาห์นี้ “ผันผวน” เผชิญความเสี่ยงโควิดระบาดระลอกใหม่-ไถ่ถอน LTF ระยะสั้นเน้นเลือกรายตัว ระยะกลาง-ยาวคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ 60% ชู GUNKUL, BEC, ADVANC  หุ้นเด่น  


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์หน้า (4-7 ม.ค.2565) มานำเสนอ พร้อมปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยครั้งนี้อ้างอิงข้อมูลจาก บล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ “ผันผวน” โดยแนวต้าน 1667/1675 จุด ส่วนแนวรับ 1624/1612 จุด

โดยแนะจับตาการประชุม OPEC+ วันที่ 4 ม.ค. ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกำลังการผลิตอย่างไร หลังเกิดความกังวลด้าน demand จากความเสี่ยงในการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Omicron

อีกทั้งวันที่ 5 ม.ค.นี้จับตารายงาน FOMC Minutes สำหรับการประชุมรอบ 14-15 ธ.ค. ซึ่งเป็นรอบที่ FED เร่ง QE Tapering ตามคาด แต่ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยด้วย ซึ่ง hawkish กว่าคาด จึงมีแนวโน้มที่ FOMC Minutes รอบนี้จะมีสัญญาณเพิ่มเติม

ส่วน LTF ยกเลิกในปี 2564 โดยผู้ซื้อ LTF ในปี 2559 จะเริ่มขายได้ตั้งแต่ปี 2565 (7 ปี ปฏิทิน) จากข้อมูลการซื้อ LTF ในปี 2559 รายงานยอดซื้อทั้งปีอยู่ที่ราว 6 หมื่นล้านบาท และคาดต้นทุนเฉลี่ยของปีอยู่ที่บริเวณ SET 1,425 จุด

ด้านแรงขายมักสูงที่สุดในเดือนม.ค. โดยเฉลี่ย 3 ปี 2560-2562 อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และทั้งปีเฉลี่ยที่ 4.7 หมื่นล้านบาท หรือราว 65-80% ของยอดซื้อ (เช่น ปี 2558 ซื้อ 6.4 หมื่นล้านบาท และขายในปี 2562 อยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท)

คาดในเดือนม.ค.2565 อาจมีแรงขายสูงระดับ 45% ของทั้งปี (คล้ายปี 2561 ที่ตลาดปรับตัวขึ้นในปี 2560 และมีแรงขายของ LTF ออกมามาก) หรือราว 1.9-2.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนที่ลงทุนในปีดังกล่าวมีกำไรอยู่ราว 14% จากต้นทุนเฉลี่ย ขณะที่ทั้งปี 2565 เสี่ยงยอดไถ่ถอน 4.2-5.6 หมื่นล้านบาท เป็นแรงกดดันให้สถาบันในประเทศ อาจเริ่มปรับสถานะก่อนต้นปี 2565

ด้านความเสี่ยงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศหลังเทศกาลปีใหม่ เป็นจุดที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แบ่งแนวโน้มการแพร่ระบาดของ Omicrom ออกมาเป็น 3 กรณี ดังนี้

-Base Case : มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงช่วงปีใหม่ ขณะที่ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ VUCA (Vaccine Universal Prevention Covid Free Setting ATK)อย่างเคร่งครัด คาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 มากกว่า 15,000 คนต่อวัน ผู้เสียชีวิต 60-70 คนต่อวัน

-Worst Case : ประชาชนส่วนใหญ่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติตาม UP (Universal Prevention) คาดการณ์ Scenario มีผู้ติดเชื้อตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 จำนวน 30,000 คนต่อวัน เสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน

-Best Case : ผลจากโอกาสติดเชื้อเพิ่มปานกลาง เร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นในทุกกลุ่มและทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ

อย่างไรก็ตามแนะจับตารายงาน Manufacturing PMI ของยุโรปวันที่ 3ของสหรัฐฯ/อังกฤษ วันที่ 4 และ Caixin Manufacturing PMI ของจีนวันที่ 4 เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน : ต้นปี 2565 เผชิญความเสี่ยงสำคัญ 3 ประเด็น นำโดย 1)การแพร่ระบาดระลอกใหม่ 2)การไถ่ถอน LTF และ 3)การเรียกเก็บภาษีขายหุ้นและคริปโต ระยะสั้นเน้นเลือกรายตัว ระยะกลาง-ยาวคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ 60%

โดยหุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ GUNKUL, BEC, ADVANC  โดย GUNKUL แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6 บาท การทำ MOU กับ JMART & SINGER เป็นบวกเชิง synergy ส่วน ▪ BEC แนะนำซื้อเก็งกำไร ผลประกอบการอยู่ในจุดฟื้นตัวต่อเนือง และ ADVANC แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย  252 บาท หุ้นปันผลสูง 4% ได้ประโยชน์จาก 5G

Back to top button