ทุบลงยาก
ดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่าทุบลงยาก ก่อนสิ้นปี 64 เพียงวันเดียว ก็มีมากถึง 3.56 พันล้าน แต่ถ้ารวมเดือน ธ.ค. ปี 64 ก็มีทั้งสิ้น 2.32 หมื่นล้าน
*การทะยานขึ้นของดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ทุบลงยาก เพราะเม็ดเงินจากฝรั่งหัวดำอัดเข้ามาเยอะเหลือเกิน แถมเมื่อคิดยอดซื้อเฉพาะวันพฤหัสฯ ก่อนสิ้นปี 64 เพียงวันเดียว ก็มีเข้ามามากถึง 3.56 พันล้าน แต่ถ้ารวมตัวเลขเดือน ธ.ค. ปี 64 ก็มียอดซื้อสุทธิทั้งสิ้น 2.32 หมื่นล้าน จึงอนุมานได้ทันทีว่า เดือน ม.ค. ปี 65 น่าจะมียอดซื้อใกล้เคียงกับเดือนก่อน เพราะโมเมนตัมของการลงทุนทั่วโลกมันออกไปในโทนบวกกันทั้งนั้นพะยะค่ะ
*ขนาดยักษ์ใหญ่ขายมือถือย่าง “แอปเปิ้ล” ยังขึ้นแท่นบริษัทอเมริกันเจ้าแรกที่มีมูลค่าการตลาดทะลุ 3 ล้านล้านเหรียญ ท่ามกลางโควิดระบาดไปทั่วโลกแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงว่า รอบนี้น่าจะทำฐานแนวรับที่มั่นคงบริเวณ 1,660 จุดได้สบายๆ เพราะองค์ประกอบหลายอย่างค่อนข้างเป็นใจ ผสานกับการเติบโตของธุรกิจที่เป็นโลกเก่า กับธุรกิจที่เป็นโลกใหม่ ก็เป็นไปตามคาดการณ์ เลยทำให้เชื่อว่า ทุกคนจะผ่านปีเสือดุไปได้ไงล่ะคะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,670.28 จุด บวกไป 12.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 แสนล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ แถมมองในมุมของตัวเลขสถิติต่างๆ ก็เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการลงทุนรอบใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม เพราะการเล่นวันนี้ตั้งอยู่บนตัวเลขที่ยังไม่บวกโกรทที่จะเข้ามาเติมเต็มความกระชุ่มกระชวย จึงกลายเป็นจุดที่เหมาะต่อการลงทุนด้วยประการฉะนี้เจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะตัวเต็งอย่างหุ้นขายหมูขายไก่อย่าง CPF กลายเป็นช็อตของการ follow buy ไปโดยปริยาย แถมเมื่อดูจากราคาพื้นฐานที่โบรกเกอร์หลายแห่งให้ไว้อยู่แถว 30 บาท “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับเกาะติดหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นมาติดในกระดาน most active บ่อยมากในช่วงหลังๆ มันคือภาพที่ยืนยันว่า กองทุนเข้า! วานี้จึงเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 27 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.84 พันล้านบาทอย่างแข็งแกร่งนะจะบอกให้
*คล้ายกับการไต่เพดานสูงขึ้นต่อเนื่องของหุ้น TISCO ก็เป็นช็อตของการไหลตามน้ำได้อย่างสบาย เพราะจุดขายของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ปันผลสูงเป็นประจำทุกปี ผนวกกับจังหวะนี้เป็นเทศกาลเก็บหุ้นที่มีลักษณะดังกล่าวพอดี “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ระดับ 6.50% เทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 98.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.02 พันล้านบาท น่าสนใจขนาดไหนนะจ๊ะ
*คล้ายกับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง SABUY ซึ่งอยู่ภายใต้การนำทัพของเฮีย “ชูเกียรติ” ก็กลายเป็นหุ้นเทคที่ทุกคนกรูเข้ามาเล่นกันอย่างเมามัน เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า การก้าวเข้าไปสู่ธุรกิจไฟแนลเชี่ยลอย่างเต็มตัว มันคืออีกหนึ่งมิติที่ทำให้บริษัทโตกระโดด “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นขึ้นมาทำ all time high ด้วยการปิดที่ระดับ 28.25 บาท บวกไป 3.55 บาท หรือขึ้นไป 14.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท เพราะไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้..เพิ่งเอ่ยให้ฟังไปหยกๆ น่ะซี
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ไตรมาสอย่างน้อง WICE เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ในตอนนี้ก็อยู่ในทิศทางที่ดีอีกเช่นกัน และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 21.20 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 338 ล้นบาท พร้อมกับทำ all time high อย่างเร้าร้อน ก็เป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องประเมินกันเอาเองว่า เชื่อเหมือนที่น้องโมเชื่อไหม?..อิอิอิ
*ในเมื่อมาด้วยเรื่องความเชื่อเป็นธงนำในการซื้อหุ้น “โมนิก้า” ก็อยากเอ่ยถึงหุ้น JR เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ในปี 65 ก็ยังอยู่ในลู่ทางสดใสเหมือนเดิม โดยเฉพาะในมุมของภาครัฐที่พยายามเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ย่อมส่งผลดีโดยตรงกับสายสีชมพูกับสายสีเหลือง แถมยังมีเรื่องหัวชาร์จอีวีเข้ามาเป็นอีกหนึ่งแรงหนุน เดี๊ยนเลยมองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.25 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 7.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้นบาท แค่ออร์เดิร์ฟเท่านั้นนะคุณะพี่
*ส่วนของจริงที่ “จัดหนัก จัดเต็ม” มาระยะหนึ่ง และกลับมาเล่นแบบสุดซอยอีกครั้งอย่างหุ้น PSG กลายเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ต้องเม้าท์ซ้ำสองวันติดในทันที เพราะการขึ้นมาชนซิลลิ่งด้วยการปิดที่ระดับ 0.75 บาท บวกไป 0.17 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 715 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดเรื่องความใหญ่ของ “กลุ่มดาว” ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ซึ่งจะทำให้ปีนี้เป็นปีซุปเปอร์เทิร์นอะราวด์ชนิดหาตัวจับยากนะคะ
*ตบท้ายกันที่หุ้น SECURE เพื่อย้ำกับแฟนคลับว่า นี่เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยของโลกในอนาคต ซึ่งเดาได้ทันทีว่า กำไรต่อจากนี้ควรจะโตต่อเนื่อง และการที่หุ้นขึ้นมายืนปิด 33 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 121 ล้านบาท น่าจะเป็นการการันตรีความคิดของน้องโมได้ในระดับหนึ่งนะจ๊ะ