แรงขายหุ้นพลังงานฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 48 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) และโบอิ้ง โค
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (21 ต.ค.) ที่ 17,168.61 จุด ลดลง 48.50 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,840.12 จุด ลดลง 40.85 จุด หรือ -0.84% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,018.94 จุด ลดลง 11.83 จุด หรือ -0.58%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลง อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากเกินคาด ทั้งนี้ หุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ร่วงลง 6.5% หุ้นเรนจ์ รีซอสเซส ดิ่งลง 6.6%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อ่อนแรงลงเช่นกัน โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ร่วงลง 3.2% และหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ดิ่งลง 2.4% ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้, หุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพปรับตัวลง นำโดยหุ้นวาเลียนท์ ฟาร์มาซูติคัล ที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 19% หุ้นเซนท์ จูด เมดิคัล ร่วงลง 8.9% และหุ้นเอนโด อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 13%, หุ้นยาฮูร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 15 เซนต์ ซึ่งปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่บริษัทมีกำไรต่อหุ้น 52 เซนต์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงลบ ซึ่งช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีตัวอื่นๆปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทรายใหญ่ รวมถึงบริษัทโบอิ้ง โค โดยหุ้นโบอิ้งปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 25% สู่ระดับ 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น
หุ้น GM ทะยานขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่สดใสในอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ GM ระบุว่า กำไรสุทธิลดลง 1.4% ในไตรมาส 3 สู่ระดับ 1.36 พันล้านดอลลาร์ หรือ 84 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 1.38 พันล้านดอลลาร์ หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนรถยนต์ บริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.50 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.18 ดอลลาร์
ขณะที่นักลงทุนขานรับบริษัทเฟอร์รารี ที่เสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อสาธารณชน (IPO) เมื่อวานนี้ โดยหุ้นเฟอร์รารีปิดตลาดที่ระดับ 55 ดอลลาร์ สูงกว่าราคา IPO ที่ระดับ 52 ดอลลาร์ ทั้งนี้ การออกหุ้น IPO ของเฟอร์รารีช่วยให้เฟียต ไคร์สเลอร์ ออโตโมบิล (FCA) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟอร์รารี สามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น 17.2 ล้านหุ้นได้ถึง 893 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ราคา IPO ดังกล่าว ยังทำให้เฟอร์รารีมีมูลค่าตลาดสูงถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.ย.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.