ผลลบจาก SSI ลูบคมตลาดทุน

ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2558 กันครบแล้ว


ธนะชัย ณ นคร

 

ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2558 กันครบแล้ว

4 แบงก์ใหญ่นำโดย BBL KBANK SCB และ KTB วูบลงตามคาด

สาเหตุหลักๆ ที่กำไรปรับลดลง ก็มาจากตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นนั่นแหละ ทำให้ต้องตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มกันสนุกสนาน

BBL กับ KBANK แม้ไม่ได้เผชิญกับปัญหา SSI UK และ SSI TH ก็มีปัญหาจากลูกหนี้กลุ่มอื่นๆ มาแทน

ส่วน KTB และ SCB หลักๆ ก็มาจากปัญหา SSI

กรณีของ 2 ธนาคารเจ้าหนี้ SSI ถูกประเมินว่า น่าจะกดดันกำไรของธนาคารพาณิชย์ 2 แห่งนี้ในระยะยาว

นั่นเพราะอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ Coverage Ratio ต่างลงมาอยู่ระดับต่ำ เช่น ของ SCB ลงมาเหลือ 101% จาก 138% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ส่วนของ KTB ก็ปรับลงจาก 125% มาเหลือราวๆ 100%

หากทั้ง KTB และ SCB ต้องการดึงตัวเลข Coverage Ratio ขึ้นมา เพื่อให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นในปี 2559

นั่นหมายความว่า จะต้องนำกำไรในไตรมาสต่อๆ ไป ดึงเข้ามาตั้งสำรองหนี้ฯ มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ จึงถูกมองว่า จากปัญหา SSI จะกดดันกำไรของธนาคารเจ้าหนี้ไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะรายของแบงก์ SCB

ส่วนของ KTB ล่าสุด จากการประชุมของนักวิเคราะห์กับผู้บริหารของ KTB ก่อนหน้านี้

เห็นทาง KTB บอกว่าในไตรมาส 4/58 นี้ ตัวเลข Coverage Ratio น่าจะกลับขึ้นมาได้ที่ระดับ 120-125%

หากเป็นเช่นนั้นจริง แสดงว่า ทางKTB จะทำกำไรค่อนข้างมาก เข้ามาตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่ม เพื่อดึง Coverage Ratio ขึ้นมาให้อยู่ให้เคียงกับระดับเดิม

เข้าใจว่า ในปี 2559 แบงก์ KTB จะต้องมีการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ค่อนข้างเยอะ

ซึ่งหากตัวเลข Coverage Ratio อยู่ระดับต่ำ ก็อาจมีปัญหาได้

กำไรสุทธิของ KTB ในไตรมาส 4 จึงน่าจะปรับลงอีกเช่นเดียวกับในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

ส่วนแบงก์ใหญ่อีก 2 แห่ง ก็คือ KBANK และ BBL ก็มีการคาดจากนักวิเคราะห์ว่า น่าจะมีการตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้นอีกในไตรมาส 4นี้ แต่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด

เพราะยังไม่รู้ว่าเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่

ประเด็นที่น่าสนใจคือ กำไรสุทธิของกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 3 ที่ลงมาเหลือ 4.52 หมื่นล้านบาท

หรือลดลงประมาณ 17%

นั่นย่อมส่งผลกระทบกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งหมดในตลาดหุ้นของไตรมาส 3/2558 อย่างหนัก

ที่ผ่านมา กำไรของ บจ. อย่างที่เรารับทราบกันว่า อุตสาหกรรมในอันดับต้นๆ ที่มีผลกำไรสูงสุดมาจากกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์

พลังงานนั้น ยังเผชิญกับปัญหาน้ำมันดิบในตลาดโลกขึ้นๆ ลงๆ  ชวนเวียนหัวจริงๆ

ทำให้ถูกมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 ยังไม่น่าจะฟื้นตัวมากนัก

และเมื่อมาเจอกับปัญหาในกลุ่มธนาคารอีก ทำให้ตัวเลขกำไรสุทธิโดยรวมไม่น่าจะออกมาดี

หุ้นพลังงานทั้งกลุ่ม ปตท. และตัวอื่นๆ ราคาปรับลงมาค่อนข้างเยอะ

ส่วนกลุ่มธนาคาร หากนับจากต้นปี หุ้นแบงก์ตัวใหญ่ๆ ก็ลงมา 15-20% และก็อาจมีแนวโน้มอาจปรับลงอีก จากปัญหาหนี้เสียที่คาดว่าจะเพิ่มในไตรมาส 4

สังเกตว่า นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงคำแนะนำ “ถือ” ในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เช่น SCB

แม้ว่าหุ้นแบงก์ตัวขนาดกลาง และเล็ก กำไรสุทธิจะออกมาสวย และมีคำแนะนำ “ซื้อ”แต่ก็ยังนำมาเทียบไม่ได้กับการสูญเสียกำไรของแบงก์ใหญ่

ตัวเลขกำไร บจ. รวมๆ จึงอาจดูไม่ดีนักในปีนี้

แต่หากเข้าไปดูแก่นของปัญหาจริงๆ

มาจากปัญหา SSI เท่านั้นเอง

 

 

 

Back to top button